ขณะเดียวกันยังได้เตรียมแผนสร้างโรงงานนำน้ำทะเลมาผลิตเป็นน้ำจืด โดยเบื้องต้นมีแผนตั้งบริษัทลูกเพื่อร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อสร้างความมั่นคงมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อผู้ประกอบการ โดยโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลจะช่วยป้อนน้ำให้กับโรงงานในช่วงที่มีปัญหาภัยแล้ง ทำให้สร้างความมั่นใจว่าจะมีน้ำใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างเพียงพอแน่นอน
ที่ผ่านมาโรงงานขนาดใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดหลายรายมีโรงงานผลิตน้ำจืดของตัวเองแล้ว แต่โครงการนี้จะช่วยผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมทั้งหมด เบื้องต้นคาดว่าจะขยายแผนเดิมเพื่อรองรับภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 3 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนราคาขายของน้ำจืดจะทำการตกลงกับผู้ประกอบการก่อน เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระที่สูงจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม โรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลนี้ จะเป็นหลักประกันให้กับโรงงานว่าจะมีน้ำใช้อย่างแน่นอน ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไร โดยการผลิตน้ำดังกล่าวจะใช้ในเฉพาะช่วงสั้นๆช่วงฤดูแล้งเท่านั้น แต่ในช่วงอื่นๆก็จะใช้น้ำจากแหล่งน้ำปกติ ทำให้เมื่อเฉลี่ยทั้งปีต้นทุนน้ำจะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก รวมทั้งการตั้งโรงงานผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลในพื้นที่มาบตาพุดก็มีต้นทุนการวางท่อส่งน้ำต่ำกว่าการวางท่อส่งน้ำจากแหล่งน้ำที่อยู่ไกล โดยคาดว่าโครงการนี้จะมีความชัดเจนภายใน 2-3 เดือนนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีนิคมอุตสาหกรรม ทั้งสิ้น 34 แห่ง