ทั้งนี้ หากมีฝนตกลงมาในบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ ย่อมจะส่งผลดีในการเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก รวมทั้งปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำสายหลักต่างๆด้วย ทำให้มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น สำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่การเกษตร การรักษาระบบนิเวศ และการผลักดันค่าความเค็มด้วย
อย่างไรก็ตาม จะต้องบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำในให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมอย่างเคร่งครัดและปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับฝนที่ตกลงมา โดยไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้โครงการชลประทาน ตรวจสอบอาคารชลประทานทุกแห่ง ให้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ รวมทั้งการกำจัดวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ การติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้เป็นไปตามเกณฑ์การเก็บกัก ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม – น้ำล้นตลิ่ง
อีกทั้ง ยังให้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ ประจำไว้ในพื้นที่แล้ว หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา

