พร้อมกล่าวว่า การจัดการรวมกลุ่มกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน จะช่วยลดสภาพปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น ปัญหาด้านแหล่งน้ำ การพัฒนาที่ดิน การเข้าถึงเงินทุน การเข้าถึงนโยบายของภาครัฐ และปัญหาด้านอื่นๆตามการเพาะปลูกแต่ละประเภท การรวมกลุ่มกันจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ ตั้งแต่การปลูก การพัฒนาผลผลิต การขาย ก็จะสามารถต่อรอง หรือเป็นผู้กำหนดราคาได้อีกด้วย และเป็นส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกันในการพัฒนา ช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้เป็นอย่างดีและเหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชน (Community enterpric) จะเป็นระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพยิ่งให้กับพี่น้องชุมชน โดยมีกรมส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เป็นหน่วยงานหลัก และเกษตรจังหวัดเป็นพี่เลี้ยงโดยเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆแต่ละด้านเชื่อว่าเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับสังคมไทย อีกทั้งเชื่อมโยงการเกื้อกูลต่อสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบ “วิสาหกิจเพื่อสังคม”(social enterprise )ควบคู่กันไป โดยมีบริษัทประชารัฐรักสามัคคี ตามนโยบายของที่รัฐบาลที่ผ่านมา โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินการไว้แล้วอย่างดี