นางสาวสมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อให้ไม่กระทบกับภาคอุตสาหกรรมและประชาชนทั่วไปนั้น จากการตรวจสอบปริมาณน้ำทั้ง 4 อ่างเก็บน้ำหลัก ได้แก่ อ่างเก็บน้ำดอกกราย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ และอ่างเก็บน้ำประแสร์ มีปริมาณน้ำต้นทุนที่ได้มาจากการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์และปริมาณน้ำฝนที่จะไหลเข้าอ่าง คาดการณ์ ณ กลางเดือนเมษายน มีปริมาณน้ำประมาณ 93.9 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแผนการใช้น้ำอยู่ที่ประมาณ 88.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้มีน้ำต้นทุนคงเหลือประมาณ 13.6 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยกนอ.เชื่อว่าจากปริมาณน้ำดังกล่าวจะทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอใช้งานไปจนสิ้นสุดฤดูแล้งในช่วงเดือนมิถุนายนนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่การขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดคอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย นิคมอุตสาหกรรมไออาร์แอล และท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ในการปรับลดปริมาณการใช้น้ำร้อยละ 10 นั้น ปัจจุบันเนื่องจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ได้ปิดซ่อมบำรุงใหญ่สำหรับผู้ประกอบกิจการ(Shutdown/Turnaround) เพื่อลดปริมาณการใช้น้ำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเริ่มเปิดเดินเครื่องการประกอบกิจการในช่วงเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม กนอ.ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ดำเนินการตามแผนการลดปริมาณน้ำต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตแล้งในครั้งนี้ไปให้ได้