วันที่ 15 เม.ย. 63 เวลา 10.00 น. ที่ บก.ปอท. : นายสนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรค พปชร. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.กฤช เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.อีกครั้งกรณีแจ้งความรัองทุกข์ให้ดำเนินคดีกับแหม่มโพธิ์ดำ หังจากเมื่อวันจันทร์ที่ 13 เม.ย.ได้มาพบแล้วครั้งหนึ่ง
นายสนธิญาฯ กล่าวก่อนพบ พงส.ว่าตำรวจนัดหมายให้ตนมาให้ปากคำอีกครั้งหลังจากมาพบเมื่อวันจันทร์ที่ 13 แล้ว วันนั้นมีคนมาแจ้งความมาก พงส.ไม่สะดวกเลยให้มาพบวันนี้ใหม่ ซึ่งจะมีการสอบเกี่ยวกับประเด็นการนำข้อมูลหรือเอกสารอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
แยกเป็นประเด็นที่หนึ่ง คือข้อมูลของนายบอย ที่พิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ แล้วแหม่มโพธิ์ดำนำมาลงซ้ำ กับประเด็นที่สอง ในบางหัวข้อที่แหม่มโพธิ์ดำ ได้ลงโพสต์เอง เช่น นักข่าวผู้ใดต้องการรายละเอียดในเรื่องมีหน้ากากอนามัยเป็นล้านชิ้นของที่ปรึกษารัฐมนตรีหนืออะไรก็ตาม ให้ติดต่อขอเขาได้ เป็นต้น ประเด็นนี้ว่ามีจริงหรือไม่ และอีก ประเด็นในเรื่องที่แหม่มโพธิ์ดำ ได้รับเงินบริจาคต่างๆไปมากมายเกือบๆ ล้านบาท ตัวคุณแหม่มโพธิ์ดำเป็นคนประกาศเอง เช่น คุณต๊อด บริจาค เป็นต้น ว่าเขาดำเนินการไปถึงไหนแล้ว หรือได้หน้ากากอนามัยมาแล้วอย่างไร ในเมื่อมันขาดแคลนอยู่
สิ่งที่ตนเรียกร้องคือ คุณแหม่มโพธิ์ดำ ทำเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริต ประพฤติมิชอบ การโกงฯ แต่ในเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้มีอำนาจหน้าที่ เขาเรียกมาเพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบว่ามีเจตนาอย่างไร ทำไมเขาถึงไม่ให้ความร่วมมือ ส่วนการจะสอบปากคำแหม่มโพธิ์ดำ สามารถนัดหมายประสานกันที่ไหนก็ได้ จะให้คุณบุ๋ม ปนัดดา ดาราคนดังติดต่อสอบกันในเซฟเฮ้าส์ที่ไหนก็ได้ ตำรวจเขาพร้อมที่จะช่วยรักษาความลับอยู่แล้ว อย่างกรณีแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดหลายๆคดี ตำรวจเขาก็ปกปิดผู้แจ้งข้อมูลเบาะแสเป็นความลับให้โดยไม่มีปัญหา กรณีที่เกรงว่าแหม่มโพธิ์ดำออกมาเปิดตัวแล้วเกรงว่าจะได้รับอันตรายไม่ปลอดภัยนั้น
นายสนธิญาฯ กล่าวยกตัวอย่างนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ร้องเรื่องพรรคอนาคตใหม่ จนศาลฯ ตัดสินยุบพรรคไปแล้ว วันนี้ก็ยังปกติ มีอันตรายอะไรมั้ย คนทำงานเพื่อส่วนรวมทำเพื่อสังคม ทำเพื่อทิทักษ์กฎหมาย อันตรายจะเข้าตัวน้อยที่สุด ยิ่งดีกว่าคนที่ปิดๆ เปิดๆ คนไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน อย่างไร กฎหมายคุ้มครองไปไม่ถึง อย่างกรณีอย่างผมอย่างคนอื่นที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการทุจริตอะไรก็ตามกฎหมายคุ้มครองถึง คนมันเห็นอยู่ ใครจะกล้าทำคุณ ออกมาอยู่บนความเป็นจริงเถอะ
ส่วนกรณีที่คนต้องออกมาร้องเรียนแจ้งความร้องทุกข์เรื่องนี้เป็นเพราะตัวเองก็เป็นผู้เสียหายคนหนึ่ง ในช่วงเกิดข่าวหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ต้องยอมรับว่าความจริงว่ามันไม่มีหน้ากากอนามัยนะ ทุกคนหากันหมด เมื่อคุณบอกว่ามี 200 ล้านชิ้นตนก็อยากจะรู้ว่ามีจริง กักตุนกันหรือเปล่า และในฐานะคนไทยตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 50 การพิทักษ์ การรักษาชาติ การรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมทุกคนต้องมี นี่คือบทบาทหน้าที่ของประชาชนในยามสถานการณ์อย่างนี้ ดารนำข้อมูลใดก็ตามในสถานการณ์เข่นนี้ต้องถูกต้องและเป็นจริง อย่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน