เมื่อวานนี้ (26 ก.พ.) รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) และประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ‘พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต‘ โดยระบุว่า จากเหตุการณ์หลายเรื่องที่เกิดในช่วงนี้ ชี้ชัดว่าสังคมไทยต้องปฏิรูปอย่างยิ่งยวด แต่การปฏิรูปถูกผู้มีอำนาจรัฐปัจจุบันทำเละเทะไปแล้ว ยังไม่รู้ว่าสังคมไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต
1. กรณีนาฬิกายืมเพื่อน สิ่งที่ปฏิรูปคือ จริยธรรมของนักการเมืองที่ดำรงตำแหน่งในรัฐบาล ความกล้าหาญทางจริยธรรมของนายกฯ ในการจัดการกับคนใกล้ชิด และ ปปช.ในภาพรวม ทั้งองค์การ
2. กรณียิงเสือดำ สิ่งที้ต้องปฏิรูปคือ การสอบสวนของตำรวจ และระบบการบริหารงานตำรวจ และการทำงานของระบบราชการกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯในการตรวจสอบการบุกรุกป่า กรมที่ดินในการออกโฉนด
3. กรณียืมเงิน 300ล้าน และ ตำรวจไซด์ไลน์ สิ่งที่ปฏิรูปคือ วินัยและประสิทธิภาพการทำงานการทำงาน ระบบการตรวจสอบภายใน และการควบคุมกำกับปัญหาจริยธรรมของตำรวจ
4. กรณีตลาดเถื่อน สิ่งที่ปฏิรูปคือ ระบบการทำงานของท้องถิ่น ระบบการตรวจสอบการทำงานของนักการเมืองและข้าราชการท้องถิ่น และระบบการทำงานในการตรวจสอบภาษีของกลุ่มทุนใหญ่
5. กรณี โกงเงินคนจนและผู้ด้อยโอกาส สิ่งที่ปฏิรูปคือ ระบบการทำงานของกระทรวงการพัฒนาสังคม
6. กรณีล้มกกต. สิ่งที่ต้องปฏิรูป คือ ระบบการสรรหากกต. การทำงานของคณะกรรมการสรรหา และการทำงานของ สนช.
7. ทุกเรื่องข้างต้น เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อยของความล้มเหลวของ คสช. ในฐานะที่เป็นผู้แต่งตั้งบุคคลและองค์กรที่ใช้อำนาจรัฐทุกด้าน แต่กลับมิอาจขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นแต่อย่างใด เพราะสี่ปีมานี้ ระบบการเมืองและราชการยังเต็มไปด้วยความฉ้อฉล คอร์รัปชั่น ด้อยประสิทธิภาพ ด้อยจริยธรรม ปราศจากความเที่ยงธรรม ขาดความเป็นธรรม รับใช้นายทุน ผู้บังคับบัญชา เพื่อนฝูง และตนเองเป็นหลัก