ร.ต.อ.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป.พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม
1. นายทนงศักดิ์ หรือโก้ หนูพิทักษ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงราชบุรี ที่ 24/ 2563 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกง” และมีหมายจับข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” อีกรวมทั้งหมด 4 หมาย
2. นางสาวภัทรา หรืออีฟ โตจอ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงราชบุรี ที่ 25/ 2563 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิด “ร่วมกันฉ้อโกง” และมีหมายจับข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” อีก รวมทั้งหมด 4 หมาย
จับกุม ได้ที่หน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.5 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2563 ด้วยเมื่อประมาณเดือน ก.ย.62 นายทนงศักดิ์ หรือโก้ฯ ผู้ต้องหา และนางสาวภัทรา หรืออีฟฯ ภรรยา ได้ร่วมกันวางแผนชักชวนผู้เสียหายในพื้นที่ อ.บางแพ และในจังหวัดราชบุรี จำนวนหลายราย ให้ร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผู้ต้องหาอ้างว่าตนเป็นผู้ได้รับโควต้า ซึ่งผู้เสียหายต่างก็หลงเชื่อเนื่องจากทางครอบครัวของ น.ส.ภัทรา หรืออีฟฯ เป็นผู้ได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่ของ อ.บางแพ และในจังหวัดราชบุรี ผู้เสียหายจึงนำเงินมาลงทุนกับผู้ต้องหา โดยผู้ต้องหาได้กำหนดการลงทุนคือ สลากกินแบ่ง 1 ชุด จำนวน 5 เล่ม ใช้เงินลงทุน 35,200 บาท จะได้รับปันผลเป็นเงินตั้งแต่ 14,000 บาท ถึง 30,000 บาท โดยจะจ่ายเงินปันผลทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 ของเดือน ซึ่งเงินปันผลที่ผู้ต้องหาเสนอให้ผู้เสียหายนั้น ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าแต่ละคนจะได้เงินปันผลเป็นร้อยละเท่าไหร่ของเงินที่ลงทุนไป แต่จะจ่ายเงินปันผลจำนวนมากเพื่อจูงใจให้ผู้เสียหายนำเงินมาลงทุนเพิ่มและเพื่อให้ชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุนด้วย เมื่อผู้เสียหายได้เงินปันผลตามที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้บอกไว้ ผู้เสียหายจะนำเงินฝากเข้าลงทุนกับผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอีก จนมีบางรายลงทุนไปเป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท โดยผู้เสียหายจะต้องโอนเงินฝากเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.ภัทรา หรืออีฟฯ ในช่วงเริ่มต้นผู้ต้องหาจ่ายเงินปันผลตอบแทนตรงตามกำหนดทุกรอบ แต่ต่อมาประมาณเดือน ก.ย.62 เมื่อถึงกำหนดรับเงินปันผล ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ และไปตามที่บ้านพักก็ไม่พบตัว จึงมั่นใจว่าถูกหลอก ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพหัก จ.ราชบุรี เบื้องต้นมีผู้เสียหายมาแจ้งความจำนวน 7 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 7,000,000 บาท และยังพบว่ามีผู้เสียหายในพื้นที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านอีกที่ไม่ได้มาแจ้งความอีกนับสิบราย โดยส่วนใหญ่แล้วผู้เสียหายจะเป็นผู้นำชุมชน และผู้มีฐานะ ในเขตพื้นที่ อ.บางแพ และใน จ.ราชบุรี
จากการสอบถามเบื้องต้น นายทนงศักดิ์ หรือโก้ฯ และนางภัทรา หรืออีฟฯ รับว่าได้ร่วมกันโกงเงินผู้เสียหายจริง เนื่องจากตนเองเอาเงินของผู้เสียหายไปใช้จ่ายอย่างอื่น ไม่ได้ไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาให้กับผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้หมุนเงินเอามาปันผลให้กับผู้เสียหายไม่ทัน จึงชักชวนกันหลบหนีออกจากพื้นที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี มาเช่าห้องพักที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบจับกุมในเวลาต่อมา