ในช่วงปลายปี 2562 ได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยว่ ามีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ 2 ประการที่จะสนับสนุนการเติ บโตของเศรษฐกิจในปี 2563 ประกอบด้วย การผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ ยว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทั้งสองได้กลับด้านจากปั จจัยสนับสนุนเป็นปัจจัยที่บั่ นทอนการเติบโต เนื่องจากการพิจารณาผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณเลื่อนออกไปยาวนานกว่ าที่คาด ขณะที่การระบาดของไวรัสสายพันธุ์ ใหม่ COVID-19 ไม่เพียงกระทบต่อการท่องเที่ ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องเท่านั้ น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิ จไทยผ่านการหยุดชะงักของห่วงโซ่ การผลิตและผลกระทบต่อรายได้ นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้งได้ทวีความรุ นแรงมากขึ้นกว่าที่ประเมินไว้ ปัจจัยทั้งสามดังกล่าวอาจส่ งผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่ นและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิ จให้ชะลอตัวลงกว่าเดิม
˜ ความล่าช้าของการผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563: รัฐบาลคาดว่างบประมาณปี 2563 น่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ภายในสิ้ นเดือนมีนาคม หรืออย่างเร็วสุดในกลางเดือนมี นาคม ความล่าช้าเกื อบสองไตรมาสในการเบิกจ่ ายงบประมาณปี 2563 (สิ้นสุดเดือนกันยายน) โดยเฉพาะงบลงทุน วิจัยกรุงศรีจึงปรับลดมูลค่ าการลงทุนของโครงการลงทุ นโครงสร้างพื้นฐานลง 1.51 แสนล้านบาท คิดเป็น 0.9% ของ GDP ความล่าช้าของการผ่านร่ างงบประมาณไม่เพียงจะส่ งผลกระทบต่อการเลื่อนการลงทุ นของภาครัฐเท่านั้น แต่ยังมีผลเชิงลบต่อการลงทุ นภาคเอกชน และความเชื่อมั่นของผู้บริ โภคและภาคธุรกิจ ซึ่งอาจซ้ำเติมกิ จกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ ซบเซาอยู่แล้ว
˜ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19): การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 มีผลกระทบของต่อเศรษฐกิจในวงกว้ าง โดยคาดว่าจะทำให้การเติบโตของ GDP ไทย ต่ำกว่าประมาณการเดิม 0.4% โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 เศรษฐกิจจะได้รั บผลกระทบจากการหยุดชะงักของห่ วงโซ่การผลิต การท่องเที่ยวซบเซา และผลกระทบต่อรายได้ จากการศึกษาพบว่า ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ ยวจะแตะระดับสูงสุดในไตรมาส 1/2563 ในขณะที่ผลกระทบต่อการหยุดชะงั กของห่วงโซ่การผลิตจะสูงสุ ดในไตรมาส 2/2563 โดยคาดว่าการส่งออกจะลดลง 0.8% จากประมาณการเดิม การแพร่ระบาดของไวรั สโคโรนาจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ ยวลดลง 30.8% และ 13.1% ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2563 ตามลำดับ โดยภาพรวม คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่ างชาติหดตัว 4-5% ในปี 2563
˜ ปัญหาภัยแล้ง: ปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงกว่ าคาดจะส่งผลกระทบต่อ GDP ในปีนี้ลดลงจากประมาณการเดิม 0.3% ปัญหาภัยแล้งมีแนวโน้มลากยาวถึ งเดือนพฤษภาคม ปริมาณน้ำที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่ อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่ อภาคเกษตรกรรมแล้ว ยังกระทบการผลิตในภาคอุ ตสาหกรรมและภาคธุรกิจผ่ านความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุ ปทานด้วย