เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่วัดบำเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ เป็นประธาน เปิดงานโครงการหน่วยแพทย์อาสาถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 8 (ปธพ.8) มี พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางแพทย์ พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานรุ่นปธพ.8 ร่วมด้วยศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่ตั้งใจและเสียสละเวลามาเพื่อตรวจสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์ร่วมกัน เป็นรูปแบบการทำงานร่วมกันของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ ทันตแพทย์ และเจ้าหน้าที่จิตอาสา จากสังกัดต่างๆทั้งกระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัย ทหาร-ตำรวจ ภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพระภิกษุสงฆ์ สามเณร และเจ้าหน้าที่ของวัด ในการปรึกษาหาความซับซ้อนของโรคที่พบ รวมถึงการส่งต่อรักษาในอนาคตต่อไป ดังพุทธพจน์ที่ว่า “โย ภิกฺขเว มัง อุปฏฺฐ เหยฺย โส คิลานัง อุปฏฺฐเหยฺยัง” ผู้ใดปรารถนาอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุป่วยไข้เถิด จึงเป็นที่มาของโครงการนี้
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม กล่าวอีกว่า การจัดโครงการครั้งนี้ มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และนักศึกษาหลักสูตร ปธพ.รุ่นที่ 8 ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ถวายการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ ให้กับวัดบำเพ็ญเหนือ วัดบำเพ็งใต้ วัดแสนสุข วัดใหญ่ลำนกแขวก และวัดศรีกุเรชา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสหวิชาชีพเข้ามาดูแลสุขภาพถึงชุมชน และยังเป็นการกระตุ้นให้พระภิกษุรู้จักดูแลสุขภาพ การให้ความรู้ทางการแพทย์ การกู้ชีพปั้มหัวใจ เพื่อให้ทุกท่านที่เข้าร่วมได้นำไปช่วยเหลือประชาชนต่อไปในคราวเดียวกัน ซึ่งเป็นการร่วมใจของจิตอาสาเพื่อสังคมหลายระดับ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบัน
ด้าน พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา กล่าวว่า การจัดโครงการดังกล่าว ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนา ประเทศไทยเป็นเมืองแห่งพระพุทธศาสนา มีพระภิกษุ-สามเณรทั้งประเทศมากกว่า 250,000 รูป และในกรุงเทพมหามีวัดจำนวนกว่า 450 วัด เพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรมทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่พุทธศาสนิกชน และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดความตระหนักต่อการดูแลสุขภาพตนเอง ทราบปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะเจ็บป่วยในอนาคต
สำหรับหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง (ปธพ.) ของแพทยสภา มีต้นกำเนิดมาจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 “อ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร” นำมาสู่แนวคิดจัดโครงการให้เป็นรูปธรรม โดยได้ร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้านำ “ธรรมาภิบาล” มาเป็นหลักในการสร้างหลักสูตร และสร้างกิจกรรมแพทย์อาสา ให้บรรลุตามแนวทางพระราชดำรัสดังกล่าว
นพ.โสภณ เมฆธน ประธานจัดโครงการแพทย์อาสา ปธพ.8 กล่าวว่า ในวันนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการ คือ พระสงฆ์ และสามเณร 200 รูป เจ้าหน้าที่วัด 50 คน โดยมีคลินิกเฉพาะทางดังนี้ คลินิกคัดกรองสุขภาพ และฉีดวัคซีน คลินิกตรวจสุขภาพและโรคทั่วไป คลินิกหู คอ จมูก คลินิกศัลยกรรมกระดูก คลินิกกระดูกและข้อ คลินิกทันตกรรม คลินิกโรคหัวใจตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ(EKG) คลินิกจักษุ คลินิกสุขภาพจิต คลินิกโภชนาการ คลินิก X-Ray และการฝึกอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) คลินิกพิเศษการทำหมันและให้บริการฉีควัคซีนสุนัขและแมว พร้อมทั้งถวายเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ(AED) ไว้ประจำวัดบำเพ็ญเหนือ 1 เครื่องเพื่อได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานนักศึกษา ปธพ.รุ่นที่ 8 กล่าวว่า การออกหน่วยตรวจสุขภาพพระสงฆ์ของหน่วยแพทย์อาสา ปธพ.8 ครั้งนี้ นอกจากจะช่วยให้พระสงฆ์รับการตรวจรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาแล้ว ยังทำให้เห็นถึงการทำงานร่วมแรงร่วมใจของทั้งแพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ ทันตแพทย์ และเจ้าหน้าที่จิตอาสาจากภาคส่วนต่างๆ ที่จะได้ทำงานร่วมกัน เรียนรู้ร่วมกัน จนเป็นการบูรณาการงานจิตอาสาขนาดใหญ่ที่ส่งผลดีต่อประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มพระภิกษุสงฆ์ ให้เข้าถึงสิทธิและบริการสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและครบวงจร ทั้งนี้ นักศึกษาปธพ.8 กำหนดจัดกิจกรรมแพทย์อาสาอีก 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง วันที่ 16 ก.พ. 63 และโครงการแพทย์อาสาเฉลิมพระเกียรติครั้งใหญ่ที่โรงพยาบาลสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย วันที่ 8-10 พ.ค.63