ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ยื่นหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เพื่อเรียกร้องให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงสปิริตลาออก เนื่องจากถูกตรวจสอบข้อเท็จจริงของประเด็นนาฬิกาหรูจำนวนหลายเรือน ราคากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งพบในภายหลังว่า ไม่ได้ยื่นแสดงไว้ในรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.  พร้อมด้วยกับการลาออกตามที่ลั่นวาจาไว้ โดยเรียกร้องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)รักษาความเที่ยงตรง จี้ให้ดูแบบอย่างนักการเมืองในหลายประเทศ ที่ลาออก แม้ความผิดเพียงเล็กน้อย โดย นางทิชา นำรายชื่อประชาชนที่รวบรวม ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.-15 ก.พ.ผ่านทางเว็บไซต์ Change.org จำนวน  80,018 รายชื่อ มายื่นประกอบเป็นหลักฐาน

“ที่สำคัญคิดว่าหากพล.อ.ประวิตรรักรัฐบาลนี้ แล้วก็เป็นพี่ที่ดี เป็นบูรพาพยัคฆ์ที่รักน้องจริงควรลาออกเสียก่อน ก่อนจะเป็นปัจจัยที่ทำให้รัฐบาลนี้เสียหายกว่าเดิม อย่างกรณีในต่างประเทศทำผิดนิดเดียวก็ประกาศขอลาออกจากตำแหน่งแล้ว” นางทิชากล่าว

นางทิชา กล่าวถึงประเด็นที่มีเพจสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตรอยู่ต่อนั้น ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ถ้าวิเคราะห์จาก 1 แสนรายชื่อนั้น จะเห็นว่ารายชื่อเหล่านั้นถูกจัดตั้งมาด้วยกระบวนการใดบ้าง แต่สำหรับพวกเราเป็นเสียงที่บริสุทธิ์ สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีประโยชน์แอบแฝง แต่รู้สึกร้อนหนาวกับผู้นำประเทศที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่โปร่งใส ดังนั้นสังคมไทยก็ต้องวินิจฉัยด้วยความจริงใจและจริงจัง

“การออกมาครั้งนี้เป็นสัญญาณบอกป.ป.ช.ว่า อย่ามาทำไร้เดียงสาต่อเครื่องมือที่ดีที่สุดที่รัฐธรรมนูญ 40 ได้ออกแบบไว้ให้ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระ มีกติกาที่จัดการกับข้าราชการระดับสูงและนักการเมือง จึงไม่เข้าใจว่าวันนี้ป.ป.ช.จะมาทำให้มาตรฐานนั้นต่ำลงไปทำไม เพราะถ้าทำเช่นนี้คงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องมีป.ป.ช.ในประเทศไทย เพราะต้องใช้งบประมาณสูงมาก และใช้ความหวังของคนไทยในการถ่วงดุลอำนาจที่เราไม่สามารถจัดการได้ ถ้ายังใช้คำว่ายืมเพื่อนได้ มาเป็นบรรทัดฐานไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ก็ไม่จำเป็นต้องมีป.ป.ช.” นางทิชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในขณะเวลาเดียวกัน พลเอกประวิตร กำลังเข้าประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ตึกสมช.ในทำเนียบฯ ซึ่งในภายหลังได้เดินทางลงชั้นใต้ดินเพื่อไปขึ้นรถ จึงทำให้สิ่อไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์