วันที่ 5 พย.2562 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้มอบหมายให้ กก.6 บก.ป. ทำการจัดเก็บข้อมูลและทำประวัติบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่ชายแดนใต้ขึ้นไปยัง กทม.เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือแนวร่วมขึ้นไปก่อเหตุในช่วงการประชุมการประชุมสุดยอดอาเซียนฯ
จากนั้น พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป , พ.ต.ท.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.6 บก.ป , พ.ต.ท.อภิชาติ เรนชนะ รอง ผกก.6 บก.ป. , พ.ต.ท.
พงษ์พันธ์ ศิริภัทรนุกูล รอง ผกก.6 บก.ป. จึงได้ร่วมกันวางแผน โดยการนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลบุคคลโดยการสแกนบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมทั้งตรวจสอบหมายจับ
กระทั่งเมื่อ4 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 20.00 น. ระหว่างที่ ร.ต.อ.อภิชาติ อินยอด รอง สว.กก.6 บก.ป , ร.ต.อ.ธีระยุทธ ไทยราช รอง สว.กก.6 บก.ป กับพวก ได้ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลประวัติบุคคลผู้โดยสารรถประจำทางอยู่ ณ จุดตรวจสถานีรถขนส่งหาดใหญ่ จว.สงขลา ได้ตรวจสอบประวัติผู้โดยสารย้อนหลังกับสารบบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า นายวรพงษ์ สุวรรณวิจิตร หรือ พระวรพงษ์ ทีฆายุโก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 ม.4 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดตรังที่ 313/2561 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ในข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่น” ซึ่งเป็นผู้โดยสารของบริษัท ปิยะรุ่งเรืองทัวร์ สายหาดใหญ่ – กรุงเทพมหานคร
โดยระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ทราบว่า นายวรพงษ์ฯหรือพระวรพงษ์ฯ อยู่บนรถโดยสารคันดังกล่าวจึงได้ขับรถติดตามระทั่งพบรถโดยสารคันดังกล่าวจอดอยู่ริมถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 8 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง จึงขอได้ขึ้นไปตรวจสอบบนรถ พบนายวรพงษ์ฯหรือพระวรพงษ์ฯนั่งอยู่บนรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุม
สอบถาม นายวรพงษ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า โดยอ้างว่า“เมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2557 ในขณะที่ถูกควบคุมขังไว้ภายในเรือนจำจังหวัดตรังนั้นได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำจนทำให้ผู้ต้องขังดังกล่าวถึงแก่ความตายภายในเรือนจำ ซึ่งในครั้งนั้นตนเองยังไม่ได้ถูกนำตัวไปฟ้องต่อศาล
ต่อมาเมื่อประมาณปี2559 ตนเองได้ถูกปล่อยตัวจากเรือนจำในคดีอื่นและเมื่อประมาณ ปี 2560 ได้หลบหนีไปบวชเป็นพระที่จว.ชลบุรี และจว.นราธิวาส กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว”
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวมาจัดทำบันทึก , พาตัวไปสึกตามพิธีกรรมทางศาสนาพุทธและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายวรพงษ์ฯเคยมีประวัติก่อเหตุคดีอื่นๆอีก 2 คดีคือ
1.คดีลักทรัพย์ ท้องที่ สภ.เมืองตรัง เมื่อปี พ.ศ.2549 และ
2.คดีวางเพลิงเผาทรัพย์ ท้องที่ สภ.เมืองตรัง เมื่อปี พ.ศ.2555