เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 62 เวลา 08.30 น. ที่ห้อง Sapphire 204 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 22 ภายหลังเสร็จสิ้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวถึงสาระสำคัญ ว่า การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 22 ประกอบด้วย 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐเกาหลี และญี่ปุ่น โดยจัดขึ้นเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสาม โดยเน้นแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของการเป็นประธานอาเซียนของไทย และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เป็นข้อห่วงกังวลร่วมกัน
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในนามรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 22 พร้อมแสดงความเสียใจกับรัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ภายใต้กระแสความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ ในปัจจุบัน ทั้งการแข่งขันทางการค้า และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ที่เป็นผลมาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ซึ่งอาเซียนบวกสามจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราควรเตรียมความพร้อมให้อาเซียนบวกสามในการรับมือ และมุ่งมั่นที่จะสร้างโอกาสจากความท้าทายเหล่านั้น
นายกรัฐมนตรียังเสนอแนวทางส่งเสริมความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสาม 2 ประการ ได้แก่
1.ความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งการส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆ ของภูมิภาคจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้เป็นกลไกที่สำคัญของการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปอย่างต่อเนื่อง
2.ความยั่งยืนในทุกมิติ ไทยในฐานะผู้ประสานงานของอาเซียนในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืนขอให้ประเทศบวกสามสนับสนุนความมุ่งมั่นของอาเซียน โดยขอให้ประเทศบวกสามสนับสนุนอาเซียน โดยเฉพาะในการจัดตั้ง “ศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการ หารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน” และ “ศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงวัยอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม” ที่ประเทศไทย