หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม'กองปราบ' บุกรวบหนุ่มใหญ่ ใจร้อนยิงเพื่อนรับจ้างกรีดยางด้วยกันสาหัส

‘กองปราบ’ บุกรวบหนุ่มใหญ่ ใจร้อนยิงเพื่อนรับจ้างกรีดยางด้วยกันสาหัส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม, พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม, พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามนำโดย พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย สว.กก.5 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุม นายนง หรือน้อย สุขเขียว อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.4 ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 24/2557 ลงวันที่ 23 ม.ค. 2557 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนเข้าไปเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน”

กองบังคับการปราบปราม

ด้วยเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2557 นายนง สุขเขียว และนายสัมฤทธิ์ ศรีประเสริฐ ได้ร่วมกันก่อเหตุสุดอุกอาจ โดยบุกไปที่บ้านของนายประสิทธิ์ แซ่เสียว ซึ่งทั้งสามเป็นลูกจ้างรับจ้างกรีดยางอยู่สวนยางติดกัน และได้ใช้อาวุธปืนยิงนายประสิทธิ์ฯ จำนวน 1 นัด บาดเจ็บสาหัส สาเหตุเนื่องจากมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับสวนยางที่รับจ้างกรีดและมีข้อบาดหมางส่วนตัวกันมาก่อน เหตุเกิดบริเวณห้องเช่าหน้าโรงแรมธารทองอินน์ ม.9 ต.บ้านนา อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากก่อเหตุทั้งสองได้หลบหนีกลับไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง ซึ่งพยายามซ่อนตัวอยู่นานถึง 5 ปี จนคิดว่าเรื่องเงียบแล้ว นายนงฯจึงได้ออกมารับจ้างเลี้ยงไก่อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น สุดท้ายไม่รอด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนติดตาม สามารถจับกุมตัวนายนงฯได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 248 ม.1.ถ.มิตรภาพ ต.ท่าพระ อ.เมือง จว.ขอนแก่น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านนาเดิม ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายสัมฤทธิ์ฯผู้ร่วมก่อเหตุในคดีนี้ยังคงหลบหนี ทางกองบังคับการปราบปรามจะเร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img