หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมกองปราบรวบหนุ่มใหญ่เมืองอุบลฯ อ้างเป็นตัวแทนปล่อยเงินกู้จากประเทศดูไบ และตุ๋นเหยื่อร่วมลงทุนซื้อเงินสกุล“ดิจิตอล”

กองปราบรวบหนุ่มใหญ่เมืองอุบลฯ อ้างเป็นตัวแทนปล่อยเงินกู้จากประเทศดูไบ และตุ๋นเหยื่อร่วมลงทุนซื้อเงินสกุล“ดิจิตอล”

เมื่อวันที่ 29กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.,พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.,พ.ต.อ.มีชัย กำเนินธรรม รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป.,พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม,พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์,พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป,พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. ผู้ดำเนินการสืบสวน/จับกุม
พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ สว.กก.3 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม

1.นายพงศ์สันต์ ยะวาโนภาส อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 225 ม.1 ต.ดอกจิก อ.พิบูลมังสาหาร จว.อุบลราชธานี

ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดร้อยเอ็ดที่ 58/2561 และ 59/2561 ลง 6 มีนาคม 2561 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน  “ร่วมกันฉ้อโกง”

2.นายประสิทธิ์ ฉิมมาลี  อายุ 30 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 45/2 หมู่ที่ 6 ต.แจนแวน อ.ศรีณรงค์ จว.สุรินทร์

ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงที่ 315/2561 ลง 1 มิถุนายน  2561
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดย
หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

พฤติการณ์ในการจับกุมกล่าวคือ
กองปราบปราม ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหาย ให้ช่วยสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ ยะวาโนภาส หรือ“มีฉายากำนันปุ๊”อดีตเคยเป็นนักศึกษาวิชาทหาร มีพฤติการณ์ตระเวนหลอกลวงเหยื่อ โดยอ้างว่า มีเงินกู้จากประเทศดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้กู้ยืมหลายร้อยล้านบาท หากใครสนใจกู้ มีเงื่อนไขว่า ต้องจ่ายดอกเบี้ยมาก่อน คิดร้อยล่ะ 2 เปอร์เซ็นต์ ของเงินกู้ หากใครจ่ายมาก ก็จะได้เงินกู้มาก ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินไปหลายแสนบาท แต่สุดท้ายไม่มีเงินให้กู้ยืมตามที่อ้าง
นอกจากนี้กลุ่มคนร้ายกลุ่มของ ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ หรือ “กำนันปุ๊” ยังมีพฤติการณ์หลอกเหยื่อ
ร่วมลงทุนซื้อเงินดิจิตอลต่างๆ สกุลเงิน วันคอยน์, บิตคอยน์, ริปเปิล และอีเทอเรียม เป็นต้น โดยอ้างว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญเงินดิจิตอล หลอกลวงเหยื่อให้ร่วมลงทุนซื้อเงินสกุลดิจิตอล อ้างว่า มีผลกำไรดี ลงทุนเพียง 100 วัน จะได้กำไร 400-500 เปอร์เซ็นต์ จนเยื่อหลงเชื่อยอมโอนเงินเข้าบัญชี และเชิดเงินเหยื่อหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้าน

พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ต่อมาชุดสืบสวน สืบทราบว่า ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ ยะวาโนภาส เดินทางจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาหลอกเหยื่อในพื้นที่ จว.ขอนแก่น จึงแผงตัวซุ่มดักรอกลุ่มคนร้าย ต่อมาพบ ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ฯ   เดินเข้ามาเช็คยอดเงินในบัญชีที่ตู้ เอทีเอ็ม ขณะที่กำลังหลอกเหยื่อ ซึ่งเป็นสตรีสูงวัยรายหนึ่ง

จึงทำการจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ภายในตลาด อู่ฟู่ ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น เมื่อตรวจค้นรถยนต์ยังพบ นายประสิทธิ์ ฉิมมาลี  ผู้ต้องหาตามหมายซึ่งมีพฤติการณ์ก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน เป็นผู้ขับรถยนต์ให้กับ ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ จากการสืบสวนเชิงลึกได้รับข้อมูลจากชาวบ้านว่า กลุ่มผู้ต้องหาแก๊งนี้ ยังมีพฤติการณ์ เชิญชวนชาวบ้านให้เข้าลงทุน ซื้อเงินในสกุลวันคอยน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศเตือนการถือครองเงินสกุลวันคอยน์มาแล้วว่า มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกฉ้อโกงทรัพย์ หากถือครองเงินสกุล วันคอยน์ในอัตราการแลกเปลี่ยน 1,000,000 บาท จะแลกเงินดิจิทัลได้ 100,000 เหรียญวันคอยน์ ซึ่งจูงใจด้วยการโฆษณาว่า  หากสะสมเหรียญวันคอยน์ครบตามกำหนด ก็จะนำไปแลกสินค้าต่างๆ ได้ เช่น 10,000 เหรียญวันคอยน์ สามารถแลกทองคำน้ำหนัก 1 บาท หรือ 1,000,000 เหรียญ วันคอยน์ สามารถแลกรถยนต์หรู 1 คัน หรือบางรายสามารถนำไปแลกบ้านเดี่ยวได้ นอกจากนี้ ในระหว่างที่สะสมเหรียญวันคอยน์ ถ้าครบตามกำหนดระยะเวลาก็จะมีการปันผลให้อีกส่วนหนึ่ง ทำให้ชาวบ้าน หลงเชื่อ ยอมควักเงินร่วมลงทุน ช่วงแรกการลงทุนได้รับเงินปันผลดี แต่ภายหลังนานไป ผู้เสียหายไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากกลุ่มคนร้ายเลยและติดต่อไม่ได้ จากนั้นได้หลบหนีไป

จากการตรวจสอบยังพบว่า ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ พงศ์สันต์ ยะวาโนภาส  มีหมายจับค้างเก่าในลักษณะหลอกลวง หลายพื้นที่สอบสวนดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดอุดรธานีที่ 48/2561 ลง 21 กุมภาพันธ์ 2561 ข้อหา “ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน”

2.หมายจับศาลจังหวัดมหาสารคามที่ 31/2562 ลง 14 กุมภาพันธ์ 2562 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”

3.หมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 180/2561 ลง 6 มีนาคม 2561 ข้อหา“ร่วมกันกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน”

4.หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 339/2561 ลง 7 พฤษภาคม 2561 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกง”

5.หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 341/2561 ลง 7 พฤษภาคม 2561 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกง”

6.หมายจับศาลแขวงพระนครเหนือที่ 248/2561 ลง 2 พฤษภาคม 2561 ข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกง”

สอบถาม ว่าที่ ร.ท.พงศ์สันต์ฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงาน
สอบสวน สภ.ร้อยเอ็ด ภ.จว.ร้อยเอ็ด และพนักงานสอบสวนพื้นที่เกี่ยวข้องดำเนินการ

ส่วน นายประสิทธิ์ ฉิมมาลี  รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ดำเนินการ และจะขยายผลคนร้ายรายอื่นๆต่อไป

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img