เมื่อวันที่ 26 ก.ย. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ทล. พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ ผกก.6 บก.ทล. พ.ต.ต.วิษณุ คำโนนม่วง สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. นำกำลังตรวจยึดไอซ์ 320 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 320 ล้านบาท รถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า ติดแผ่นป้ายทะเบียน 8กฌ 8260 กทม. และหนังสือเอกสารรถทะเบียน ภม2112 กทม. หลังทำการตรวจยึดของกลางดังกล่าวได้ที่ ริมถนนด่านขุนทด-ชัยบาดาล(ก.2256)มุ่งหน้าชัยบาดาลระหว่างกม.4768 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ลักลอบขนยาเสพติดจากทางภาคอีสานเข้าสู่พื้นที่ กทม. โดยใช้เส้นทางในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เป็นทางผ่านจึงได้วางแผนกระจายกำลังตั้งจุดตรวจเฝ้าสังเกตการณ์สกัดกั้นจับกุมขบวนการยาเสพติดรายนี้ กระทั่งขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับรถวิทยุเพื่อไปทำการตั้งจุดตรวจบนถนนด่านขุนทด-ชัยบาดาล ได้สังเกตเห็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า ติดแผ่นป้ายทะเบียน 8กฌ 8260 กทม. ต้องสงสัยมีลักษณะตรงตามกับที่สายลับแจ้งมา ขับแซงหน้าไป จึงทำการขับประกบไล่ตาม แต่ขบวนการยาเสพติดดังกล่าวเกิดไหวตัวทันพยายามเร่งเครื่องหลบหนี เมื่อเห็นจวนตัวขบวนการยาเสพติดดังกล่าวจึงตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าซอยข้างทาง ก่อนทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าหญ้าข้างทางหลบหนีไปได้
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในรถพบยาเสพติดของกลางเป็นไอซ์อัดแท่งถูกบรรจุอยู่ภายในถุงชาสีเขียวทองซึ่งมีถุงพลาสติกและกระดาษฟรอยด์ห่อทับอีกชั้น ซุกซ่อนภายในท้ายกระบะหลังแครี่บอย จำนวนน้ำหนักรวม 320 กิโลกรัม จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้จากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวเคยมีประวัติขนลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสานลงสู่ภาคใต้มาแล้วจำนวน 2-3 ครั้งก่อนหน้านี้ โดยจะรับยาเสพติดมาจากเครือข่ายยาเสพติดประเทศประเทศเพื่อนบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง(สปป.ลาว) เข้าสู่พื้นที่ประเทศไทยในแทบพื้นที่ จ.หนองคาย จากนั้นก็จะส่งต่อเข้ามาสู่พื้นที่ภาคกลางของไทย เพื่อเตรียมพักของ ก่อนจะลำเลียงส่งต่อลงไปยังภาคใต้โดยมีจุดหมายปลายทางไปยังประเทสที่สาม เพราะหากยาเสพติดล็อตนี้สามารถหลุดไปถึงประเทศที่สามได้มูลค่าทางการตลาดก็จะเพิ่มมากขึ้น 2-3 เท่าตัว
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามสำหรับของกลางทั้งหมดเบื้องต้นจะทำการส่งมอบให้กับทางพนักงานสอบสวน สภ.หินดาด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนการสืบหาตัวผู้กระทำผิดนั้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบข้อมูลรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด พร้อมกับไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆที่รถคันดังกล่าววิ่งผ่าน เพื่อสืบหาพยานหลักฐานขยายผลไปถึงผู้กระทำผิดต่อไป