บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ต่อจิ๊กซอว์ ธุรกิจโลจิสติกส์ ลุยขนส่งทางน้ำ ทางบก-ท่าเรือ-คลังสินค้า ด้านผู้บริหาร “พนม ควรสถาพร” ลุยสั่งต่อเรือเพิ่ม 16 ลำ ทยอยส่งมอบปี63 หนุนกองเรือขยับเป็น 40 ลำจากปัจจุบัน 24 ลำ พร้อมสยายปีกธุรกิจใหม่ด้านพลังงานทั้งผลิต และจำหน่าย ไอน้ำ ไฟฟ้า และน้ำใช้ ให้กับโรงงานอุตสาหกรรม เสริมฐานรายได้ เติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจในช่วง ครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯยังคงวางกลยุทธ์ ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อต่อยอดการเติบโตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแผนการขยายการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ ด้านขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้ามากขึ้น เนื่องจากมองว่า กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังคงมีมาร์จิ้นดี ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมบริษัทฯในระยะยาว เพื่อการต่อยอดและเพิ่มสัดส่วนรายได้ ให้มีศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงิน แบบมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทฯกล่าวยอมรับว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน จากธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK ) มูลค่า 342.40 ล้านบาท บริษัทฯได้นำไปขยายการลงทุนในการต่อเรือลำลียงเพิ่ม จำนวน 16 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสั่งต่อเรือ และคาดว่า จะทยอยส่งมอบได้ทั้งหมดในปี 2563 ส่งผลให้บริษัทฯ มีจำนวนกองเรือลำลียง เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 40 ลำ จากปี 2562 ที่มีเรือลำเลียง จำนวน 24 ลำ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายท่าเรือ รองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 3 ท่า จากปัจจุบัน มีการให้บริการอยู่ จำนวน 2 ท่า โดยท่าเรือที่ 3 อยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ ในช่วงปลายไตรมาส 4/2562 เพื่อรองรับการให้บริการเรือลากจูง ที่เพิ่มขึ้นตามแผนการส่งมอบเรือในช่วงปี 2563
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทฯ หันมาลงทุนในส่วนของธุรกิจโลจิสติกส์ ขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้าเพิ่มขึ้นนั้น ประธานกรรมการบริหาร AGE กล่าวว่า ถือว่าเป็นการ เปิดโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น บนพื้นที่ 300 กว่าไร่ ที่อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีทั้ง ลานเก็บกองถ่านหิน ท่าเรือ ที่สามารถรองรับการขยายการลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันประเทศไทย มีความต้องการใช้เรือลำเลียง เพื่อขนส่งสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง ปุ๋ย นอกเหนือจากถ่านหิน
ดังนั้นการที่บริษัทฯขยายช่องทางในธุรกิจดังกล่าวเพิ่ม ยิ่งเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งในศักยภาพความครบวงจรทางธุรกิจของAGE ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ AGE ยังแตกไลน์เพื่อต่อยอด โดยผ่านการหาพันธมิตรทางธุรกิจ มาร่วมเป็น Strategic Partner ภายใต้การจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด” โดย AGE ถือหุ้นร้อยละ 45 บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น ถือหุ้นร้อยละ 45 และ บริษัท แอพไพลแอ๊นซ์ เทคโนโลยี่ ซัพพลายส์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 10 ภายใต้ทุนจดทะเบียน จำนวน 300,000,000 บาท เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการจัดหา และการให้บริการด้านสาธารณูปโภค ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป อาทิ การผลิต และจำหน่าย ไอน้ำ ไฟฟ้า และน้ำใช้ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม โดยใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน หรือเชื้อเพลิงอื่นๆในการผลิต
โดยการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจจัดหา และให้บริการด้านพลังงาน ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงาน ทั้งรายได้ และกำไรของบริษัทฯให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในอนาคต นอกเหนือจากธุรกิจการจัดหาและจัดจำหน่ายถ่านหิน และธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ที่มีอยู่เดิม
“จากแผนการต่อยอดธุรกิจ จากธุรกิจถ่านหิน สู่ ธุรกิจโลจิสติกส์ รวมถึงการแตกไลน์ไปยั’ธุรกิจการจัดหาและให้บริการด้านพลังงาน เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพธุรกิจที่มีการครอบคลุมการให้บริการที่มีความหลากหลาย และมีความครบวงจรทางธุรกิจมากขึ้น” นายพนม กล่าวทิ้งท้าย