หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมกองปราบรวบผัวซวยโกหกเมียถูกแก๊งยาเสพติดจับตัวไปซ้อม และขังไว้หลังเมียร้องให้ช่วยแท้แอบไปเสพไอซ์กับกิ๊ก

กองปราบรวบผัวซวยโกหกเมียถูกแก๊งยาเสพติดจับตัวไปซ้อม และขังไว้หลังเมียร้องให้ช่วยแท้แอบไปเสพไอซ์กับกิ๊ก

วันนี้ 17 กย. ด้วย กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยการอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ,พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก 5 บก.ป., พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รอง ผกก.5 บก.ป. , พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย สว.กก.5 บก.ป. , ร.ต.อ.พิทยา ธนาวุฒิ รอง สว.กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณัฐภัทร รัตนถาวร อายุ 18 ปี เศษ สัญชาติไทย ที่อยู่ 28 หมู่ที่ 8 ต.ห้วยทับทัน อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ” พร้อมของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 2 ถุง และ อุปกรณ์การเสพ ภายในห้องเลขที่ 5/13 ชูก้าปาล์ม เรสสิเด้น ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต เมื่อ วันที่ 16 กันยายน 2562เวลาประมาณ 17.30 น.

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16กันยายน 2562 ขณะที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุอยู่ที่กองบังคับการปราบปราม ได้มี น.ส.สุภาวดี จำปาทอง เดินทางมาพบแจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 นายณัฐภัทร รัตนถาวร ซึ่งเป็นสามี ได้เดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต เพื่อไปทำงานเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย โดยคำแนะนำของเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งเมื่อนายณัฐภัทร ฯ เดินทางไปถึง จ.ภูเก็ต นายณัฐภัทร ฯ แจ้งกับ น.ส.สุภาวดีฯ ทางโทรศัพท์ว่า ตนเองได้พักอยู่ที่ซูก้าปาล์มบนชั้นที่ 2 อ.เมือง จ.ภูเก็ต และภายในห้องดังกล่าวมียาเสพติดอยู่มากมาย ซึ่งนายณัฐภัทร ฯ ได้ถูกหลอกให้ไปทำงานเกี่ยวกับการเฝ้ายาเสพติด ไม่ใช่งานรักษาความปลอดภัยตามที่แจ้งแต่อย่างใด นายณัฐภัทร ฯ ยังแจ้งกับน.ส.สุภาวดีฯ ว่า ตนเองกลัว อยากกลับบ้าน แต่ไม่สามารถกลับได้ เนื่องจากไม่รู้จักสถานที่ และไม่มีคีย์การ์ดเข้าออกอาคารโรงแรมดังกล่าว แต่น.ส.สุภาวดีฯ ก็ยังสามารถติดต่อ นายณัฐภัทร ฯ ทางโทรศัพท์ได้ตามปกติ ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2562 น.ส.สุภาวดีฯ ได้โทรศัพท์ไปหา นายณัฐภัทร ฯ ซึ่งนายณัฐภัทร ฯ รับสาย แต่ไม่ยอมพูดคุยกับน.ส.สุภาวดีฯ และเมื่อวันที่ 16 ก.ย.2562 เวลา 13.00 น.นายณัฐภัทร ฯ ได้โทรศัพท์มาหาน.ส.สุภาวดีฯ แต่ก็ไม่ยอมพูดคุยกับน.ส.สุภาวดีฯอีก หลังจากนั้นนายณัฐภัทร ฯ ได้ส่งข้อความมายังน.ส.สุภาวดีฯ ว่า อยากกลับบ้าน ประกอบกับ นายณัฐภัทรฯ ได้โพสข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า “ถ้าผมหายไป ก้ดูแลตัวเองกันดีดีนะ จะบวกหรือลบ เกมมันกำหนดไว้หมดแล้ว” “ล่าสุดตาเขียว ตัวช้ำ หัวโนจ้า เห้อเวรกรรมอะไร” และ “อยากกลับบ้าน กูไม่ไหวแล้ว” น.ส.สุภาวดีฯ จึงเกรงว่า นายณัฐภัทร ฯ จะได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย จึงมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยติดตามหาตัว นายณัฐภัทร ฯ เพื่อช่วยเหลือให้พ้นจากอันตราย และนำตัวนายณัฐภัทรฯกลับบ้านพักอาศัยอย่างปลอดภัยต่อไป

เมื่อได้รับแจ้งดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ซึ่งประจำการอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เข้าทำการตรวจสอบเพื่อทำการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที หลังจากกองปราบปรามรับแจ้ง ได้นำกำลังเข้าไปตรวจบริเวณห้องพักชั้น 2 ชูก้าปาล์ม เรสสิเด้น ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวสังเกตุพบว่าระเบียงด้านหลังห้อง 5/13 ซึ่งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำพบชายตำหนิรูปพรรณตรงกับ นายณัฐภัทร รัตนถาวร ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณระเบียงหลังห้อง เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงท่าทางมีพิรุธ รีบวิ่งเข้าไปในห้องทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบติดตามชายคนดังกล่าวเข้าไปในห้อง ตรวจสอบพบว่าคือ นายณัฐภัทร รัตนถาวร จึงเข้าทำการช่วยเหลือ แต่จากการตรวจค้นภายในห้องปรากฏพบ ยาไอซ์จำนวน 2 ถุง พร้อมอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นของกลาง จากการสอบปากคำ นายณัฐภัทร รัตนถาวร รับว่าตนเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ตเนื่องจากได้รับการติดต่อจาก นายโจ้ฯ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ซึ่งเป็นเพื่อนชายรักชาย ว่าให้มาอยู่ด้วยที่จังหวัดภูเก็ต เป็นเวลา 7 วัน โดยจะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 10,000 บาท โดยนายณัฐภัทรฯ ได้โกหกภรรยา ว่ามาทำงานเป็นคนคุมสถานบริการ ซึ่งนายณัฐภัทรฯ ได้เดินทางมาที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2562 และมาพักอาศัยอยู่กับนายโจ้ฯ ที่ห้องเลขที่ 5/13 ชูก้าปาล์ม เรสสิเด้น ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต ซึ่งขณะที่อยู่ด้วยกันกับนายโจ้ฯ นายโจ้ฯก็ได้จัดหายาเสพติด(ยาไอซ์) มาเสพและอยู่กินด้วยกัน แต่เมื่ออยู่ครบ 7 วัน นายโจ้ฯ ก็ไม่ได้ให้เงินค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ แต่บอกว่าให้อยู่ต่ออีกจนถึงวันที่ 16 กันยายน 2562 แล้วจะให้เงินค่าจ้างและซื่อตั๋วเครื่องบินให้กลับบ้าน นายณัฐภัทรฯ จึงได้โกหกสร้างเรื่องราวว่าอยากกลับบ้านแต่ไม่สามารถกลับได้และถูกทำร้ายร่างกาย แต่ที่จริงแล้วนายณัฐภัทรฯ ไม่ได้ถูกกักขังหรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพบนายณัฐภัทรฯอยู่ภายในห้องดังกล่าวเพียงคนเดียวและสามารถออกจากห้องได้อย่างอิสระ ตรวจสอบร่างกายนายณัฐภัทรฯไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุม นายณัฐภัทร รัตนถาวร พร้อมของกลางยาไอซ์ ในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” นายณัฐภัทรฯรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ติดต่อไปแจ้งให้ภรรยาและญาติของนายณัฐภัทรฯ ที่มาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ทราบถึงรายละเอียดของข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น


 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img