เมื่อวันที่ 15 กย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามภายใต้การอำนวยการของ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ ปราบปรามภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ. แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม, พ.ต.ท.ยุทธิวัสส์ กล่ำกล่อมจิตร์ ,พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ, พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป.
พ.ต.ต.จักรี กันธิยะ สว.กก.4 บก.ป.ได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐวุฒิ หรือยักษ์ พรมเสน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 11 ต.ท่าวังตาล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาล จังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.231/2562 ลงวันที่ 2 เมษายน 2562 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีรับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร” จับกุมตัวได้ บริเวณลานจอดรถ เทศบาลตำบลสำราญราษฎ์ ต.สำราญราษฏ์ อ.ดอยสะเก็ด จว.เชียงใหม่
เนื่องจาก คดีนี้ได้มี นางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นภรรยาของผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับการกองปราบปราม ขอให้ติดตามตัวจับจุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งยังจับกุมตัวไม่ได้ โดยนางเอได้ให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ก่อเหตุใช้มีดแทงสามีของตนจนไส้ทะลักอาการสาหัสปางตาย โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวยังมี ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ดูแลอยู่ ทำให้ไม่สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ ซึ่งนางเอได้เข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานหลายหน่วยงานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีได้ ต่อมาจึงเข้าร้องเรียนกับผู้บังคับการกองปราบปราบให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหารายนี้มีดำเนินคดีตามกฎหมาย
โดยคดีนี้เหตุเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 1 เม.ย.2561 นายณัฐวุฒิฯหรือยักษ์ ผู้ต้องหาคดีนี้ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยประจำศูนย์แห่งหนึ่งประจำ อ.สารภี ได้เข้าดูแลความเรียบร้อยงานปอยหลวงประจำปี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ได้อยู่บริเวณหน้าจุดที่มีการจัดงานรำวง บริเวณด้านข้างเวที ต่อมามีเหตุทะเลาะกันในจุดที่มีงานรำวง นายณัฐวุฒิฯได้ขว้างขวดเข้ามาโดนนายหนึ่ง (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ซึ่งนั่งอยู่หน้าเวทีรำวงแล้ววิ่งหลบหนี ผู้เสียหายจึงวิ่งติดตามไป เมื่อตามไปถึงกลับถูกนายยักษ์ ใช้มีดพกกระหน่ำแทงสวนมาใส่นายหนึ่ง จนนายหนึ่งถึงกับไส้ทะลักออกมาก่อนฟุบล้มลงและนอนแน่นิ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุนายยักษ์ ได้วิ่งหลบหนีไป
ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สารภี ให้ดำเนินคดีกับนายยักษ์ และพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติต่อศาลออกหมายจับนายยักษ์ ข้อหาพยายามฆ่าและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะฯ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้สืบทราบว่านายยักษ์ ได้มาอาศัยอยู่กับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เพื่อหลบหนีคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนการจับกุม นายยักษ์
ภายหลังนายยักษ์ฯ ถูกจับกุมอ้างว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด ในคืนเกิดเหตุตนได้เข้าระงับเหตุการทะเลาะวิวาทในงานปอยหลวงประจำปี อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 30 คน วิ่งเข้ามาจะทำร้ายตน จึงคว้าสิ่งของที่อยู่บริเวณข้างๆ ตวัดไปมาและวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอด และปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท จึงฝากไปถึงกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุหรือเที่ยวในงานต่างๆ อย่าคึกคะนองจนทำให้มีผู้อื่นได้รับความเดือนร้อนและซวยถูกลูกหลงในงานอย่างเช่นตน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อกับคำให้การของนายยักษ์ โดยคดีนี้นายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้ให้การขัดแย้งกันกับคำให้การนายยักษ์ ก่อนนำส่งท้องที่ดำเนินคดีต่อไป

