วันนี้ 11 กย.ตามนโยบายรัฐบาลการปราบปรามการทุจริตในวงราชการ ปัจจุบันฝ่ายปกครองที่ถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เห็นว่าเป็นนโยบายของชาติที่สำคัญ จึงได้สั่งการให้ข้าราชการตำรวจกองบังคับการปราบปราม ติดตาม สืบสวน ปราบปรามข้าราชการและฝ่ายปกครองที่กระทำผิดในเรื่องนี้ โดยให้ดำเนินการจับกุมมาสู่กระบวนการในชั้นศาล เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนในพื้นที่และสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง
กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ป.พร้อมกำลังชุดสืบสวน
นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.กัมพล อารีล้น รอง สว.กก.3 บก.ป.,
ร่วมกันจับกุมตัว นายสวน สนธิรักษ์ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 265 หมู่ 1 ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จว.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ จ.24/2562 ลง 6 มิ.ย.62 ซึ่งกระทำผิดฐาน “ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาลตามกำหนด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ถือว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับ
ผู้ถูกกล่าวหามาเพื่อพิจารณาคดี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2552 นายสวน สนธิรักษ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีตำบลหนองพอก จว.ร้อยเอ็ด และได้พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2556 ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตามมาตรา 19 (5), (6) และ (9) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตร พ.ศ. 2542 กรณีเข้ารับตำแหน่งกรณีพ้นจากตำแหน่งและกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ผู้ต้องหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความ
อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งในส่วนทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรส ประกอบไปด้วย บัญชีเงินฝาก ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี นายสวน สนธิรักษ์, รถกระบะบรรทุก จำนวน 2 คัน, โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 2 หลัง และมีพฤติการณ์มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ต่อมามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหามาเพื่อพิจารณาคดีตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28
กองปราบปราม และชุดปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้ทำการสืบสวนติดตามจนทราบว่านายสวนฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบซ่อนตัวที่บ้านพักเลขที่ 5 หมู่ที่ 2 ต.รอบเมือง อ.หนองพอก จว.ร้อยเอ็ดจึงนำกำลังเข้าจับกุมและได้นำตัวส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป