เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่(13.30 น.)จว.สงขลา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. (มค.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐ รอง ผบช.สพฐ.ตร. พล.ต.ต.ณัฐธแก้ว เมตตามิตรพงศ์ ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร.
พล.ต.ต.ไพบูลย์ เจียมนุกูลกิจ (นายแพทย์ สบ.6) พล.ต.ต.ชยุต มารยาตร์ ผบก.ประจำ บช.สพฐ.ตร.,พ.ต.อ.กฤษศักดิ์ สงมูลนาค รอง ผบก.กระบี่ (ช่วยราชการ สง.รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีปล้นทอง เหตุพื้น สภ.นาทวี ภ.จว.สงขลา โดยได้เดินทางไปยังร้านทองที่เกิดเหตุ และได้สอบถามในประเด็นต่างจาก เจ้าของ”ร้านทองสุธาดา”นาทวี โดยเจ้าของร้านทองได้ร้องขอให้มีป้อมจุดตรวจตำรวจมาตั้งบริเวณดังกล่าว พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้ ผบก.ภ.จว.สงขลา รีบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน
ต่อจากนั้น รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะได้เดินทางไปห้องประชุม สภ.นาทวี เพื่อเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีปล้นทอง โดยมีพล.ต.ต.ชอบ คิสาลัง รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ปรีดา เปี่ยมวารี ผบก.ภ.จว.สงขลา พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบก.ภ.จว.ปัตตานี พ.ต.อ.เอกรัฐ สวนแสง ผกก.สภ.นาทวีและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยภายหลังประชุมเสร็จ พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า คดีนี้พฤติกรรมของคนร้ายลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจและคดีมีความเกี่ยวโยงและเกี่ยวพันกับคดีด้านความมั่นคง ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร.มีความห่วงใยและกำชับให้เร่งรัดสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยเร็ว พร้อมสั่งการให้ ผกก.สภ.นาทวี รีบประสานกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเพื่อนำป้อมตำรวจมาติดตั้งตามคำร้องขอ ซึ่งเดิมทราบว่าเคยมีป้อมตำรวจตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะพื้นที่ดังกล่าวมี ร้านขายทองถึง 11 ร้าน ธนาคาร อีก 7 แห่งให้ตำรวจในพื้นที่หมั่นออกตรวจตามแผนป้องกันเหตุของ ตร.ในส่วนของการเยียยาล่าสุดทราบว่าเสียหายประมาณ 61 ล้าน โดยให้เจ้าของร้านนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เพื่อประชุมพิจารณาเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวของตามกรอบของกฏหมาย และขอยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยหลายคนเคยก่อเหตุในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้มีพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีพยานยืนยันตัวบุคล มัดแน่นเพียงพอไม่ผิดตัวแน่นอน
ในต่อมาคณะดังกล่าวได้เดินทางไปศาลจังหวัดนาทวี ทันที เพื่อยื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับ และศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 6 รายได้แก่
1. นายแวอูเซ็ง ดือราเฮ็ง อายุ 33 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน 1-9403-00088-06-0 อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 1 ต. ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตามหมายจับเลขที่ 325/2562 ลงวันที่ 3 ก.ย. 2562
2. นายไซฟูดดิน หะยีปูเต๊ะ อายุ 31 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน 5-9402-00023-97-0 อยู่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ที่ 1 ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ตามหมายจับเลขที่ 326/2562 ลงวันที่ 3 ก.ย. 2562
3. นายรอซารี หลำโสะ อายุ 29 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน1-9006-00076-77-6 อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 5 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับเลขที่ 327/2562 ลงวันที่ 3 ก.ย. 2562
4. นายซอบรี หลำโสะ อายุ 29 ปี หมายเลขประจำตัวประชาชน 1-9006-00076-78-4 อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 5 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ตามหมายจับเลขที่ 328/2562 ลงวันที่ 3 ก.ย. 2562
หมายจับ ที่ 5 กับที่ 6 ขอปิดนาม หมายจับ เลขที่ 329/2562 และ 330 ลงวันที่ 3 ก.ย. 2562 ในความผิดฐาน ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน, ร่วมกันก่อการร้ายโดยการสะสมกำลังพล อาวุธ ทรัพย์สินเพื่อการ ก่อการร้าย หรือสมคบกันก่อการร้าย, ร่วมกันเป็นอั้งยี่และซ่องโจร , ปล้นทรัพย์และพยายามปล้นทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม ,ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ,ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตให้พกพาติดตัว ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน
สำหรับ นายแวอูเซ็ง ดือราเฮ็ง มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย, นายไซฟูดดิน หะยีปูเต๊ะ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย, นายรอซาลี หลำโสะ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 6 หมาย, นายซอบรี หลำโสะ หมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย