ภายใต้การอำนวยของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.,พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ,พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์, พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง, พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์, พ.ต.ท.ภคพล สุชล รอง ผกก.๑ บก.ป.
เจ้าพนักงานชุดจับกุม ว่าที่ พ.ต.ต.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สว.กก.1 บก.ป,ร.ต.อ.สรัล ยศพลพิเนต รอง สว.กก.1 บก.ป.,ร.ต.ท.รัฐชิน เจริญรัมย์ รรท.รอง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.บุญเสริม สอนคำ,ด.ต.จิรภัทร ยิ่งยง,ส.ต.ท.ไตรภพ จันทนุปาน,ส.ต.ท.เดชฤทธิ์ สงวนพรรค และ ส.ต.อ.จิรายุ สิงห์ป้อง ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ได้ทำการจับกุมตัว นางสาวพิชฌา ผ่องขำ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 428 ซ.ร่มเกล้า 42 ต.เขตลาดกระบังคลองสามประเวศคลองสามประเวศ อ.เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพมหานคร ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายและตกลงให้ผลตอบแทนจากการหาสมาชิก อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ 83/2562 ลงวันที่ 13สิงหาคม 2562 จับกุม ตัวได้ที่ บริเวณใต้อาคารทรอปิคานาคอนโดมิเนียมต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่ผ่านมา
พฤติการณ์กล่าวคือ
สืบเนื่องมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากผู้ประกอบการในเครือ OD Capital (โอดี แคปิตอล) เป็นจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายรวมสูง และมีการออกหมายจับไว้หลายราย และยังหลบหนีอยู่
ต่อมาผู้เสียหายได้เข้ามาร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปรามปรามเร่งจับกุมตัวผู้ต้องมาดำเนินคดีเนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ด้านผู้เสียหายเปิดเผยว่า ก่อนนี้เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2560 นางสาวพิชฌา ผ่องขำ อายุ 39 ปี กับพวก ได้ชักกชวนให้ตนร่วมลงทุนที่บริษัทดังกล่าว โดยตนได้รับคำแนะนำจากเพื่อนของนางสาวพิชฌาฯ ผู้ต้องหาซึ่งทํางานอยู่ด้วยกัน ต่อมานางสาวพิชฌาฯหาได้ติดต่อตนมาพูดคุยเรื่องการลงทุนกับบริษัท โอดี แคปปิตอล หรือ (ymci.co) โดย บอกว่าหากสนใจจะร่วมลงทุนกับทางบริษัทฯ จะให้เงินปันผล (ดอกเบี้ย) 10 เปอร์เซ็นต์ จากเงินลงทุน โดยทางบริษัทฯ จะส่งเงินลงทุนพร้อมกับเงินปันผล ให้กับผู้ลงทุนจํานวน ๒๔ เดือน โดยทางบริษัทจะตอบแทนเป็นเงินปันผล (ดอกเบี้ย) ต่อเดือน โดยตอบแทนเป็นสกุลเงินดอลล่า โดยเงินดังกล่าวเข้าทางฐานข้อมูลของตนในเว็บของYMCI ซึ่งตนจะได้รับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกหลังจากที่ตนได้จ่ายเงินลงทุนไปแล้ว ซึ่งตนจะต้องนําเหรียญดอลล่า ที่ทางบริษัทแจ้งว่าเป็นผลกำไลจากการลงทุน นั้นไปแลกเป็นเงินบาทไทย ตนจึงหลงเชื่อคำแนะนำของผู้ต้องหาและแสดงตารางการตอบแทนยืนยันว่าได้รับผลตอบแทน จากบริษัท โอดี แคปปิตอล (ymci.co)จริง จึงได้ตัดสินใจร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาและได้โอนเงินไปให้นางสาวพิชฌาฯ จำนวนหลายครั้งรวมความเสียหายกว่าหลายแสนบาท ในช่วงๆ แรกผู้เสียหายบอกว่าได้รับเงินปันผลจาก นางสาวพิชฌาฯ จริง โดยทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตน พอผ่านมาสักระยะหนึ่ง นางสาวพิชฌาฯ บอกกับตนว่า มีปัญหาเรื่องการแลกเปลี่ยนเงินจากเงินดอลล่า เป็นเงินบาทไทย และได้บอกกับตนว่าให้ไปทำการยืนยันตนกับทาง บริษัท โอดี แคปปิตอล (ymci.co) เพื่อจะได้แลกเงินจากทางบริษัทฯ โดยตรง ไม่ต้องผ่าน นางสาวพิชฌาฯ จนเวลาผ่านไปกว่า 2 เดือนจึงจะได้รับการติดต่อกลับจาก บริษัท โอดี แคปปิตอล (ymci.co) ว่าได้รับการยืนยันตัวตนสำเร็จ ต่อมาตนได้รับแจ้งจาก นางสาวพิชฌาฯ(แม่ทีม) ว่า ทางบริษัทฯ เปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินเป็นสกุลเงินดิจิตอลสกุลหนึ่ง และลดเวลาการจ่ายเงินปันผลเหลือแค่เพียง 15 เดือน จาก 24 เดือน ซึ่งผิดจากสัญญาที่ได้ตกลงไว้ในตอนแรกและต่อมาตนก็ไมได้รับเงินปันผลมาตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2561 เลยทั้งสิ้น ตนจึงเริ่มสงสัยว่าตนจะถูกหลอกลวงจากผู้ต้องหา จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 ตนแน่ใจว่าถูกนางสาวพิชฌาฯ หลอกลวง เนื่องจากไม่ได้รับเงินปันผลจากลงทุนแต่อย่างใด จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านผู้เสียหายบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเงินที่นำมาลงทุนนั้นได้มาจากทรัพย์สินของตนนำไปขายและจำนำเพื่อนำเงินมาร่วมลงทุนกับ นางสาวพิชฌาฯ และได้ถูกหลอกลวงในที่สุด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบรามจะทำการสืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาที่สามารถจับกุมได้ เพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายที่เหลืออยู่ และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด เพื่อยึดทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้มาจากการกระทำความผิด
ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสำโรง จว.สุโขทัย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวพิชฌาฯ ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และชักชวนคนเข้าร่วมเครือข่ายและตกลงให้ผลตอบแทนจากการหาสมาชิก อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” จนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป
ต่อมา ผู้เสียหายจึงมาร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวนหาเบาะแสของผู้ต้องหาในคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดีประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากผู้ประกอบการในเครือ OD Capital (โอดี แคปิตอล) เป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อ วันที่ 22 สิงหาคม 2562 จากการสืบสวนจนทราบว่า นางสาวพิชฌาฯ ได้มาอยู่ที่ บริเวณใต้อาคารทรอปิคานาคอนโดมิเนียมต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ จึงได้ประสานความร่วมมือไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่คาดว่า นางสาวพิชฌาฯ ปรากฏตัวอยู่
เมื่อไปถึงพื้นที่ ที่สืบสวนทราบว่า นางสาวพิชฌาฯ ปรากฏตัวอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณ บริเวณใต้อาคารทรอปิคานาคอนโดมิเนียมต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบบุคคลลักษณะคล้าย นางสาวพิชฌาฯ อยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวและขอตรวจสอบ พบว่า คือ นางสาวพิชฌาฯ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุโขทัย ที่ 83/2562 ลงวันที่ 13สิงหาคม 2562 จริง และรับว่าไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ผู้ต้องหาให้ทราบ และนำตัว นางสาวพิชฌาฯ ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา