หน้าแรกเศรษฐกิจ-การเงินธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดและกลุ่มบริษัทปตท.ประสบความสำเร็จในการทดสอบธุรกรรม Letter of Credit ผ่านระบบ Blockchain

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดและกลุ่มบริษัทปตท.ประสบความสำเร็จในการทดสอบธุรกรรม Letter of Credit ผ่านระบบ Blockchain

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดและกลุ่มบริษัทปตท.ประสบความสำเร็จในการทดสอบธุรกรรม Letter of Credit ผ่านระบบ Blockchain เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมน้ำมัน 

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดประสบความสำเร็จในการทดสอบธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันเป็นครั้งแรกร่วมกับกลุ่มบริษัทปตท. ระหว่างบริษัท ปตท.ค้าสากล จำกัด และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) โดยใช้เงื่อนไขการชำระ Letter of Credit (L/C) บนแพลทฟอร์มบล็อกเชนของ Voltron

เนื่องจากธุรกรรมการนำเข้าส่งออกน้ำมันมีมูลค่าสูง บริษัทค้าขายน้ำมันจึงต้องพึ่งพา L/C เป็นเครื่องมือการชำระเงินเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม กระบวนการที่เกี่ยวข้องยังอาศัยเอกสารกระดาษเป็นจำนวนมากและต้องใช้เวลานานประมาณห้าวันในการนำส่งเอกสารเหล่านี้

ธุรกรรมนำร่องครั้งนี้เป็นการทำธุรกรรมส่งออกน้ำมันจากประเทศไทยไปยังประเทศสิงคโปร์ ในการนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดดำเนินการให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านระบบดิจิทัลระหว่างคู่ค้าและธนาคารที่เกี่ยวข้องบนแพลทฟอร์ม Voltron ตั้งแต่การยื่นขอออก L/C การออก L/C และการยื่นเอกสารส่งออกจนถึงการนำส่งเอกสารให้แก่ผู้นำเข้า เนื่องจากเอกสารทั้งหมดถูกส่งผ่านระบบอิเล็กทรอนิก คู่ค้าที่เกี่ยวข้องจึงสามารถเห็นข้อมูลอัพเดทสถานะทุกขั้นตอน ส่งผลให้สามารถลดเวลาการทำงานลงเหลือไม่ถึง 12 ชั่วโมง สร้างความโปร่งใสในขั้นตอนการทำงานและช่วยบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน

นายวิทวัส สวัสดิ์-ชูโต ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.)  เปิดเผยว่า  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนองค์กรตลอดจนการดำเนินธุรกิจ เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี   ให้สามารถปรับตัวพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง  ตลอดจนสร้างโอกาสทางการค้าและการดำเนินธุรกิจด้านต่างๆ ให้กับบริษัทในกลุ่ม สำหรับโครงการชำระ Letter of Credit (L/C) บนแพลทฟอร์มบล็อกเชนของ Voltron นี้  ปตท. ได้เล็งเห็นโอกาสในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้พัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานระหว่างบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท.ค้าสากล จำกัด  ซึ่งสำเร็จและเห็นผลเป็นที่ประจักษ์  โดย กลุ่ม ปตท. พร้อมเดินหน้าแสวงหาโอกาสในรูปแบบอื่นๆต่อไป เพื่อมุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทในโลกยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การขับเคลื่อนด้านดิจิทัลถือเป็นหนึ่งในวาระสำคัญของบริษัทฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ GDP ที่เน้นการพัฒนาด้านการเติบโตทางธุรกิจ (Growth) ด้านดิจิทัล (Digital) และด้านบุคลากร (People) จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ทำงานร่วมกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ในการเดินทางสู่โลกการค้าในยุคดิจิทัลระดับสากล การทำรายการ Letter of Credit ผ่านระบบ Blockchain นี้ถือเป็นความก้าวหน้าในการใช้เทคโนโลยี Blockchain อีกขั้นหนึ่งของบริษัทฯ เพิ่มเติมจากธุรกรรมประเภทอื่น ทีมงานของบริษัทฯ ได้รับประสบการณ์ตรงจากการเข้าร่วมโครงการ Voltron และมีส่วนร่วมในการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และมีความพร้อมในการขับเคลื่อนสู่โลกยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีระยะเวลาการดำเนินการที่น้อยลง บริษัทฯ มีความพร้อมและหวังว่าจะขยายธุรกรรมการส่งออกบนแพลทฟอร์มนี้”

คุณศุภศจี ห้องสินหลาก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. ค้าสากล จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ปตท.ค้าสากล จำกัด มุ่งพัฒนาธุรกิจให้มีการปรับตัวไปสู่การเป็นบริษัทแห่งความก้าวหน้าด้านดิจิทัล ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาส่งเสริมด้านการบริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้น จึงใช้ระบบ Blockchain เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการค้าขายและช่วยลดเวลาในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่นการออก LC (Letter of Credit) โดยระบบสามารถแสดงการติดตามการทำธุรกรรมอย่างชัดเจน (Tracking system) แบบ Real-time อันจะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและน่าเชื่อถือให้กับกระบวนการค้า ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคู้ค้าให้มั่นคงยิ่งขึ้น อีกด้วย”

นายซามูเอล แมทิว Global Head แผนก Documentary Trade Product Management ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าว “ธุรกรรมนำร่องกับกลุ่มปตท.นี้ ถือเป็นธุรกรรมแรกของธนาคารในโครงการ Voltron ในการขับเคลื่อนธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศให้เป็นระบบดิจิทัลและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับลูกค้า ในปัจจุบัน ลูกค้าของเรามองหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความท้าทายของภาวะการค้าโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เรามั่นใจว่า  Voltron จะทำให้ผู้ส่งออก นำเข้า ธนาคาร และผู้มีส่วนร่วมอื่นๆ ในธุรกรรม ได้ประโยชน์จากการทำงานที่รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการชำระราคา”

นายจอร์เดน โรลลิน Global Head of Digital Transformation, Trade Product Management ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และสมาชิกในคณะกรรมการขับเคลื่อน Voltron กล่าวเสริมว่า “เรากำลังปฏิรูปการค้าระหว่างประเทศด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีและความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ เราได้รับข้อเสนอแนะจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องจากการทำธุรกรรมนำร่อง เพื่อนำมาปรับปรุง Voltron ให้มีการทำงานที่ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การให้บริการจริง นอกจากนี้เรายังได้เริ่มพัฒนาบริการการค้าระหว่างประเทศอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก L/C ให้เป็นดิจิทัลอีกด้วย”

“งานหลักของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) คือการใช้เครือข่ายทั่วโลกของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดและนำระบบดิจิทัลมาใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินงานของลูกค้า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเราที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของธุรกรรมการค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์เป็นครั้งแรก และเป็นธุรกรรมส่งออกน้ำมันครั้งแรกบนแพลทฟอร์ม Voltron การเรียนรู้ ประสบการณ์และโอกาสที่ได้จากการร่วมสร้างอนาคตของการค้าระหว่างประเทศร่วมกับทีมจากบริษัท ปตท.ค้าสากล จำกัด และบริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) มีความสำคัญยิ่งและไม่อาจประเมินค่าได้ ในลำดับต่อไป เรามุ่งเห็นพัฒนาการของโครงการ Voltron ในการให้บริการจริง” นายพลากร หวั่งหลี กรรมการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำประเทศไทยและสำนักงานตัวแทน ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง Voltron แพลทฟอร์มบล็อกเชนซึ่งมุ่งสร้าง แลกเปลี่ยน อนุมัติ และออก L/C ด้วยระบบดิจิทัล โดยต่อยอดการให้บริการเพื่อเชื่อมโยงลูกค้าและระบบนิเวศทางการเงินผ่านนวัตกรรมและความร่วมมือ และเมื่อไม่นานมานี้ได้เปิดตัว Trade AI Engine โซลูชั่นซึ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัท IBM เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้นในขั้นตอนงานเอกสารการค้าด้วยประสิทธิภาพการดำเนินงานและการควบคุมการดำเนินงานที่รัดกุมขึ้น ในช่วงต้นของปีนี้ ธนาคารได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ Linklogis ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มห่วงโซ่อุปทานอิสระมุ่งให้บริการธุรกิจระหว่างธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน เพื่อเพิ่มโอกาสในการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทางการเงินและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในตลาด


 

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img