2 ผัวเมียร้องกองปราบฯ ช่วยคลี่คลายคดีลูกชายตายปริศนา สงสัยลูกเลี้ยงตำรวจตรังฆ่าปมชู้สาว
วันนี้ วันจันทร์ที่ 22 ก.ค.62 เวลา 09.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) : นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา นายเวียง สิทคชวัน อายุ 57 ปี และนางเครือวัลย์ สิทคชวัน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เดินทางเข้าพบ ร้อยตำรวจเอก วิสูตร บุญยังมาก รองสารวัตรสอบสวนกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (รองสว.สอบสวน กก.6 บก.ป.) เพื่อร้องทุกข์ให้ช่วยคลี่คลายคดีที่ นายธนวิชญ์ สิทคชวัน อายุ 24 ปี ลูกชายเสียชีวิตปริศนา ที่บริเวณคลองสาธารณะ ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร หมู่ 9 ต.คลองปาง อ.รัษฎา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 8 มี.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมา 6 เดือนแต่ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากผู้ต้องสงสัยเป็นลูกชายบุญธรรมของตำรวจในพื้นที่
นายเวียงฯ พ่อผู้เสียชีวิต ให้การว่า ในวันเกิดเหตุภรรยาร้องเรียกด้วยเสียงตกใจว่าลูกชายเสียชีวิตอยู่ในคลองข้างแปลงผัก ขณะนั้นตนพักผ่อนอยู่ในบ้านจึงรีบวิ่งลงมาช่วยลูก พบเสียชีวิตนอนคว่ำหน้าในคลอง ส่วนขาอยู่บนตลิ่ง ที่ด้านหลังมีรอยถลอก และพบจอบตกอยู่ใกล้กัน หลังเกิดเหตุร้อยเวร สภ.รัษฎา และแพทย์ตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพศพลงความเห็นว่าถูกไฟฟ้าดูด ตนจึงนำศพลูกตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัด ในระหว่างตั้งบำเพ็ญกุศลเพื่อนบ้านได้มาบอกว่าวันเกิดเหตุได้ยินเสียงลูกชายร้องขอให้ช่วยเหลือ จึงตัดสินใจนำศพลูกชายส่งไปชันสูตรใหม่ที่ รพ.สงขลานครินท์ หาดใหญ่ ผลการชันสูตรแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตจากการที่สมองถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม จึงนำผลมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ จากนั้นได้มีการสอบปากคำพยาน 3 ปากแต่เรื่องก็เงียบหายไป
นายเวียงฯ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.62 ที่ผ่านมาตนได้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง (บก.ภ.จ.ตรัง) เพื่อขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวน และรอจนได้เอกสารตอบกลับมาจากตำรวจว่า พนักงานสอบสวนรอเอกสารผลการชันสูตรจาก รพ.สงขลานครินทร์ ตนจึงสอบถามไปที่ รพ.สงขลานครินทร์ ได้รับคำตอบว่าได้ส่งผลให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว จึงกลับไปขอดูผลชันสูตรจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและติดต่อไปที่กองบังคับบการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง อีกครั้งแต่ได้รับคำตอบว่าได้ให้ สภ.รัษฎา เป็นผู้ทำคดีและมีการบ่ายเบี่ยงกันไปมา จึงตัดสินใจเข้าร้องกองปราบปรามให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดีของบุตรชายให้ด้วย
ด้าน นางเครือวัลย์ฯ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุลูกชายออกไปรดน้ำผักในแปลงตามปกติ จนถึงเวลาอาหารกลางวันลูกชายยังไม่กลับมา จึงออกตามหา จนไปพบลูกชายเสียชีวิตอยู่ในคลองข้างแปลงผัก ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุสองวันลูกชายเคยมาเล่าให้ฟังว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) แฟนลูกชายไปแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ นายบี (นามสมมติ) ลูกเลี้ยงตำรวจชั้นประทวนนายหนึ่งในโรงพักรัษฎา โดยนายบี กับลูกชายตนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก จึงได้แต่ปลอบใจลูกว่าให้ปล่อยผู้หญิงไป แต่หลังเกิดเหตุ น.ส.เอ แฟนของลูกชายได้หยิบเอาโทรศัพท์ลูกชายไปจากที่เกิดเหตุ ตนและสามีก็เริ่มสงสัยการเสียชีวิตของลูกชายจึงได้ไปขอโทรศัพท์ลูกกลับคืนมา พบว่าข้อความจำนวนมากถูกลบหายไป นอกจากนี้ตนกับสามีและเพื่อนบ้านได้ตรวจสอบบริเวณเสาไฟที่เกิดเหตุก็ไม่พบว่ามีไฟรั่วแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าคดีนี้น่าจะมีเงื่อนงำมากกว่านี้
ด้านนายรณรงค์ฯ กล่าวว่า พ่อแม่ของผู้เสียชีวิตมาขอความเป็นธรรมและให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดีเพราะผ่านมา 6 เดือนคดีไม่คืบ เพราะเชื่อว่าลูกชายถูกฆาตกรรมน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว และผู้ต้องสงสัยเป็นลูกของตำรวจในพื้นที่ทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งจากการตรวจสอบผลชันสูตรจากเอกสาร รพ.สงขลานครินทร์ แพทย์ลงความเห็นว่า ด้านหลังมีแผลฟกช้ำหลายจุด มีบาดแผลช้ำใต้หนังศีรษะตรงด้านหน้า มีแอลกอฮอล์ในเลือด 11.6% และสมองได้รับการกระทบกระเทือนจากการกระแทกกับของแข็งไม่มีคม
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป