หน้าแรกกระบวนการยุติธรรม“ผบช.สตม.”นำทีมแถลงผลงาน ลุยจับอาชญากรต่างชาติ

“ผบช.สตม.”นำทีมแถลงผลงาน ลุยจับอาชญากรต่างชาติ

“ผบช.สตม.”นำทีมแถลงผลงาน ลุยจับอาชญากรต่างชาติของ บก.ตม.1,3,5 ทีเดียวรวด

เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2562 ที่สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม., , พล.ต.ต. อิทธิพล อิทธิสํารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.1, พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3, พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.ตม.5, ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายในช่วงที่ผ่านมาที่มีผลการปฏิบัติที่ปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ ของชาวต่างชาติที่เข้ามาพานักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยว ในประเทศไทยโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดาเนินการตรวจสอบ ชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความ ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ตม.1 และ กก.สส.บก.ตม.1 ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม นายเบอร์ทานฯ (MR.BERTRAND) สัญชาติไนจีเรียผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาที่ 2015/2558 ลงวันที่ 14 ก.ย.2558 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันปลอม ใช้เอกสารปลอม , ร่วมกันนาเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน , ร่วมกันกระทําความผิดฐานมีส่วนร่วม ในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การจับกุมในคดีนี้เกิดจากการสืบสวนและประสานของเจ้าหน้าที่ บก.ตม.1 และ บก.ปอท. ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการไทย ได้จับกุมสมาชิกแก๊งนี้ได้แล้วจํานวน 2 ราย คือนายไบรท์ (BRIGHT) และนายออนยีคาชุกวู (OMNYEKACHUKWU) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1074/2558 และ 1075/2558 ลง27 พ.ค.2558  ซึ่งถูกดําเนินคดีไปแล้วจากการประสานและตรวจสอบข้อมูลทําให้ ทราบว่านายเบอร์ทานฯ เป็นหนึ่งในสมาชิกตัวการสําคัญคนหนึ่งในแก๊งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่ ทางการต้องการตัวและติดตามจับกุมตัวยังไม่ได้ตั้งแต่ปี 2558 โดยนายเบอร์ทานฯ ได้มายื่นขออยู่ต่อใน ราชอาณาจักรกับกก.2 บก.ตม.1ในกรณีเป็นนักศึกษาของสถาบันมีชื่อแห่งหนึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้วางแผนติดต่อให้นายเบอร์ทานฯ เข้ามาติดต่อเรื่องวีซ่าและเอกสารและเมื่อนายเบอร์ทานฯ มาพบเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบเอกสารประจําตัว (passport) พบว่า มีการเปลี่ยนเล่มใหม่เพื่อให้การตรวจสอบและติดตามข้อมูลทําได้ยากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงทําการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยี สารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง และ BIOMETRICS พบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันสมหมายจับ จึงได้ทําการจับกุมตัวและ ส่งดําเนินคดีต่อไป นายเบอร์ทานฯ เป็นสมาชิกในขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติมีการทํา ธุรกรรมในบัญชีการเงินต่างๆ โดยส่งอีเมลสแกมที่มีการปรับแต่งเป็นอีเมลแอดเดรสของบริษัทเป้าหมาย ต่างๆ ไปหาลูกค้าของบริษัทนั้นๆ ในการรับโอนเงิน จากนั้นจะโอนเงินต่อไปยังสมาชิกเครือข่ายเพื่อ ฟอกเงิน ทําให้ยากต่อ การติดตามเงินกลับคืน

การก่ออาชญากรรมในลักษณะนี้เป็นการหลอกลวง ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคนร้ายส่วนใหญ่จะเป็นชาวผิวสี กระทําเป็นขบวนการในลักษณะองค์กร อาชญากรรม ซึ่งในปี 2561 เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเสียหายเป็นตัวเงินมากที่สุด ประมาณ 370 ล้านบาท

จักรทิพย์ ชัยจินดา

คดีที่ 2. กก.สส.บก.ตม.1 ได้ทําการสืบสวน ทราบว่านายโจนาธาน (Mr.JONATHAN) สัญชาติ ไอริช เป็นบุคคลซึ่งก่อคดีอุกฉกรรจ์ที่ประเทศไอแลนด์ และ ถูกออกหมายจับจํานวน 6 หมาย ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทยเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้เสนอขออนุมัติ ผบก.ตม.1 เพิก ถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และ ผบก.ตม.1 อนุมัติให้เพิกถอนเมื่อ 15 ก.ค.62

นายโจนาธาน (Mr.JONATHAN) ได้ก่อเหตุ เกี่ยวกับการทําร้ายร่างกายสาหัส โจรกรรม และข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนในประเทศไอแลนด์ต่างกรรมต่างท้องที่เป็นจํานวน 6 หมายจับ และหลบหนี มาซ่อนตัวในประเทศไทย ขณะหลบซ่อนตัว ก็พยายามปกปิดข้อมูลที่พักอาศัย โดยแจ้งที่พักอาศัยและ หมายเลขโทรศัพท์ ไม่ตรงกับความเป็นจริง มีการเปลี่ยนแปลงที่พักไปมาและเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทั้งในต่างจังหวัดและในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ ความพยายามติดตามและตรวจสอบข้อมูลจนทราบแน่ชัด ว่า นายโจนาธาน (Mr.JONATHAN) มาพักอยู่ กับแฟนสาวชาวไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้นํากาลังไปซุ่มรอและจับกุมตัวได้ในที่สุด และควบคุมตัว เพื่อผลักดันส่งกลับและดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สมพงษ์  ยังได้ร่วมแถลงผลงานจากกรณีเมื่อวันเสาร์ ที่ 13 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.46 น. ได้มีข้อความปรากฎทางสื่อ สังคมออนไลน์ (Facebook) ว่ามีบุคคลต่างด้าวกักขัง ผูกล่ามโซ่สุนัข พันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ เจอเนื้อตัวเป็น แผลหลายจุด โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 ก.ค. 62 เจ้าของซึ่งเป็นคนต่างด้าว ได้ทุบตีสุนัข ได้รับ บาดเจ็บ ส่งเสียงร้องเสียงดัง ที่ ดิ อเวนิวบีชคอนโด ในซอยบางนา การ์เด้นท์ 10 ม.8 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จว.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรปราการ จึงได้ร่วมกับ สภ.บางเสาธง ปศุสัตว์ อำเภอบางเสาธง เจ้าหน้าที่ WATCHDOG THAILAND เข้าตรวจสอบที่บริเวณคอนโดดังกล่าว เมื่อไปถึง พบคนต่างด้าว ตำหนิรูปพรรณตรงตามที่แจ้งกาลังนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างเข้ามาที่คอนโด จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ขอทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบทราบว่า คนต่างด้าวดังกล่าวชื่อ MR.WACHISA สัญชาติ แซมเบีย อายุ 27 ปี ไม่สามารถนาหนังสือเดินทางมาแสดงได้ อ้างว่าหนังสือ เดินทางอยู่บนห้อง สอบถามถึงเรื่องสุนัข ให้การว่าได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสก้อ จำนวน 2 ตัว อยู่บน ห้องพักของตน จึงพาเจ้าหน้าที่ไปทาการตรวจค้นห้องพักเลขที่ 98/150 พบสุนัขพันธุ์ ไซบีเรียน ฮัสกี้ จานวน 2 ตัว อยู่บนห้อง ดังนี้ 1. สุนัขเพศเมีย ชื่อมีน่า อายุประมาณ 4 เดือน ได้รับบาดเจ็บ ขาหลังหัก ทั้ง 2 ข้าง ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ 2. สุนัขเพศผู้ ชื่อ แม็ก อายุประมาณ 8 เดือน สภาพปกติ

สอบถาม MR.WACHISA ให้การว่าสุนัขชื่อ มีน่า ได้กัดสายชาร์จ แลปท๊อป และพื้นห้องได้รับความเสียหาย จึงใช้มือชกสุนัขชื่อ มีน่า ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการตรวจสอบข้อมูลการเดิน ทางเข้า – ออก และข้อมูลการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรไทย พบว่าเดินทางเข้ามาเพื่อศึกษาที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2556 ได้รับการตรวจลงตราประเภท NON ED และได้รับ อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 11 มีนาคม 2561 การอนุญาตสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2561 ปัจจุบัน อยู่เกินเป็นเวลา 489 วัน จึงทาการจับกุม MR.WACHISA ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ดาเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ได้แจ้งกล่าวหาเพิ่มเติม ในความผิดฐาน “ทารุณกรรมสัตว์” ส่วนสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ทั้ง 2 ตัว ได้มอบให้ WATCHDOG THAILAND และปศุสัตว์อำเภอบางเสา ธง ดูแลและดาเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยที่ MR.WACHISA ให้ความยินยอม ซึ่งตม.จว.สมุทรปราการ ได้เชิญตัวเจ้าของห้องเลขที่ 98/150 มาดาเนินการ เปรียบเทียบปรับในความผิดฐาน เจ้าบ้านไม่แจ้งที่พักอาศัยตาม ม.38 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 สตม.

ในเวลาต่อมายังได้ร่วมแถลงข่าวการผลงานการจับกุมของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย กองบังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้รับการประสานจากหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยการข่าวในพื้นว่าจะมี การลักลอบขนยาเสพติดยาบ้า ผ่านช่องทางจุดผ่านแดนถาวร โดยซุกซ่อนมาในร่างกาย เสื้อผ้า รองเท้าหรือ สัมภาระสื่งของติดตัว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้มงวดในการตรวจบุคคลที่ผ่านเข้าออก โดยบูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย 3 ฉก.ม.2

ในเวลาต่อมาตามวันเวลาที่เกิดเหตุ พบชายต้องสงสัยจานวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ 1. นายวิษณุ และ 2. นายพงศ์ภัค ผ่านเข้ามาบริเวณช่องตรวจบุคคลคนไทยขาเข้า เจ้าหน้าที่สังเกตเห็น มีพฤติการณ์พิรุธน่าสงสัย เดินในลักษณะท่าทางผิดปกติ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สาย แจ้งเหตุแห่งความสงสัยให้ทราบและได้สอบถามว่ามีสิ่งใดซุกซ่อนอยู่ภายใต้รองเท้าและได้ให้ผู้ต้องสงสัย ถอดรองเท้าเพื่อตรวจสอบ พบว่ารองเท้าที่ผู้ต้องสงสัยสวมใส่มาทั้งสองข้าง มีวัตถุเป็นเม็ดสีส้มแดง เม็ดสีเขียว ห่อหุ้มด้วยกระดาษ และพันด้วยพลาสติกใสรวมอยู่ด้วยกัน ซุกซ่อนอยู่ใต้แผ่นรองเท้า จำนวน ข้างละ 1 หีบห่อ รวมจานวน 4 หีบห่อ เป็นยาบ้าชนิดเม็ดสีเขียวบนเม็ดมีอักษร WY จานวนประมาณ 110 เม็ด เม็ดสีส้มแดงบนเม็ดมีตัวอักษร WY รวมจำนวนประมาณ 11,758 เม็ด และยังพบวัตถุเป็นเกล็ดสีขาว ซุกซ่อนรวมกับวัตถุที่เป็นเม็ดสีส้มแดง และสีเขียว อีกจานวน 2 หีบห่อ น้าหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 405 กรัม จึงควบคุมตัว เพื่อขยายผลดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img