วันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ค.62 ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พลตำรวจตรี วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) และพันตำรวจเอก มานะ กลีบสัตบุศย์,พันตำรวจเอก ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (รองผบก.ปคม.) ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก มารุต กาญจนขันธกุล ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผกก.1 บก.ปคม.) และพันตำรวจตรี ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (สว.กก.1 บก.ปคม.)
ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุมพระครูสีลธาดาธีรเดช ขจรสุข หรือนายธีรเดช ขจรสุข อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 716/2559 ลงวันที่ 5 ต.ค.59 ในฐานความผิด “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, กระทำชำเราเด็กอายุเกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน,กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” โดยจับกุมได้ที่ วัดสายวารี ต.เสด็จ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี
พ.ต.ต.ต่อสกุลฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อราวเดือนพ.ย.56 ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14 ปี จำนวน 8 ราย เข้าแจ้งความและขอความช่วยเหลือผ่านศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก สตรี และเยาวชน และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ตำรวจภูธรภาค 5 ว่าถูก ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งขณะนั้นได้ใช้ชื่อว่าพระธีรเดช สีลธโร เจ้าอาวาสวัดสันป่าสัก จ.เชียงใหม่ พร้อมพวกซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดชื่อดังทางภาคเหนือ ประกอบไปด้วยอดีตพระครูปลัดเปี๊ยก โอกาโส อายุ 54 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่, อดีตพระครูประภัสร์วรการ อายุ 60 ปี เจ้าอาวาสวัดกู่ป่าลาน จ.ลำพูน, อดีตพระครูวิทิตรัตนคุณ หรือเสาร์แก้ว เกี๋ยงหล้า อายุ 49 ปี เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม จ.เชียงใหม่,, อดีตพระจำรัส อธิมุตโต หรือ จำรัส วิรัญชัย อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดท่าผา จ.เชียงใหม่ และอดีตพระดำ หรือ นายธวัชชัย มูลปานันท์ อายุ 45 ปี อดีตพระลูกวัดบุปผาราม จ.เชียงใหม่ ล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายทางทวารหนัก ผ่านการออกอุบายจากพระดำ หรือพระชัย หรือนายธวัชชัย มูลปานันท์ หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีนี้ว่า จะพาไปอยู่ด้วยมีเงินมีทองให้ใช้ แต่แท้จริงแล้ว กลับพาไปให้ กลุ่มของผู้ต้องหาบังคับข่มขืนกระทำชำเรา โดยสนนราคาที่ 300 บาท เหตุเกิดระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย. ปีเดียวกัน
ต่อมาตำรวจบช.ภ.5 ได้ทำการจับกุมได้ทั้งขบวนการ ซึ่งภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผล พบผู้เสียหายเพิ่มอีกหลายราย จึงขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม ซึ่งเป็นลักษณะต่างกรรมต่างวาระ และทราบว่าได้หลบหนีออกจากพื้นที่ภาคเหนือ ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม. สืบทราบว่า กลับมาบวชใหม่อีกครั้งที่วัดดังกล่าว โดยใช้ชื่อพระครูสีลธาดาธีรเดช ขจรสุข จึงนำกำลังเข้าจับกุม ทั้งนี้จากการสอบปากคำได้ให้การปฎิเสธ จึงเชิญตัวให้พระสังฆาธิการ จับศึก และนำตัวส่งดำเนินคดี ที่ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง