ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายเอกชัย หงส์กังวาน อายุ 42 ปี และนายอนุรักษ์ หรือฟอร์ด เจนตวนิชย์ อายุ 51 ปี นักกิจกรรมทางการเมือง พร้อมพวกกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท ชนินทร ง่วนสน สารวัตรสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (สว.สอบสวน กก.1 บก.ป.) เพื่อขอให้กองปราบฯ ช่วยรับโอนคดีที่ตนถูกทำร้ายจากทั้งหมดรวม 9 คดี มาดำเนินการสอบสวนแทนตำรวจท้องที่ เนื่องจากที่ผ่านมาหลายคดีไม่มีความคืบหน้า
นายเอกชัยฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองเคยถูกลอบทำร้ายรวมทั้งหมดถึง 9 คดี แบ่งเป็น ถูกทำร้ายร่างกาย 7 คดีเผารถยนต์อีก 2 คดี มีเพียง 2 คดีเท่านั้นที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ ส่วนอีก 1 คดีที่จับกุมผู้ก่อเหตุได้เพียง 1 คน ทั้ง ๆ ที่มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดถึง 3 คน ซึ่งจนถึงขณะนี้ตนคิดว่าคดีที่เหลือทั้งหมดคงไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่า น่าจะมีอิทธิพลเข้ามาบงการ จนทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า รวมทั้งขัดขวางกระบวนการสอบสวน จนไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่แท้จริงได้
นายเอกชัยฯ กล่าวต่อว่า กรณีที่ตนเชื่้อว่า น่าจะมีกลุ่มอิทธิพลคอยบงการอยู่เบื้องหลัง ก็เช่นในคดีที่จับกุมคนร้ายได้ 1 คนนั้น ซึ่งตนก็ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 3 คน แต่กลับไม่มีการขยายผลการดำเนินคดีเพิ่มเติม หลังจากจับกุมคนร้ายได้เพียงคนเดียวแล้วรีบปิดคดีไปทันที ทำให้ตนรู้สึกว่าไม่มีความโปร่งใส่ต่อการทำคดี จึงอยากให้กองปราบฯ รับโอนทุกคดีจากตำรวจท้องที่ โดยวันนี้ตนได้นำหลักฐานเป็นเอกสารบึนทึกประจำวัน และภาพถ่ายที่ตนถูกทำร้ายในแต่ละคดีมามอบให้พนักงานสอบสวน เพราะเชื่อว่ากองปราบฯ จะสามารถทำคดีได้ดีกว่าตำรวจท้องที่ และก็อยากให้เร่งจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย
เบื้องต้น พ.ต.ท.ชนินทรฯ ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง