กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาท ในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.40-30.80 ต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 30.67 ต่อดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาททำสถิติแตะระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาทแต่ขายพันธบัตร 2.8 พันล้านบาท ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เงินบาทแข็งค่ามากถึง 6% เป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มสกุลเงินเอเชีย
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสดใสมากขึ้น โดยเงินหยวนแข็งค่า หลังตลาดคลายความวิตกเกี่ยวกับข้อขัดแย้งทางการค้าหลังการประชุม G20 ซึ่งสหรัฐฯ และจีนตกลงที่จะเริ่มเจรจาอีกครั้ง โดยประธานาธิบดีทรัมป์เสนอการผ่อนปรนมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ และข้อกำหนดต่อบริษัทเทคโนโลยีของจีน ทั้งนี้ สหรัฐฯ ระบุว่าจะชะลอมาตรการภาษีนำเข้าและจีนจะซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ดังกล่าวต่อไปรวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนี ISM และการจ้างงาน
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลงต่อเนื่อง ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุว่ายังกังวลต่อเสถียรภาพระบบการเงินจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น แต่ตระหนักถึงความเสี่ยงด้านขาลงของเศรษฐกิจไทยเช่นกัน โดยกนง.ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพี ปี 2562 ลงมาที่ 3.3% จาก 3.8% พร้อมปรับลดคาดการณ์การส่งออกเป็นเติบโต 0% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.0% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้เช่นกัน ทั้งนี้ กนง.คาดว่าจีดีพีปี 2563 จะเติบโต 3.7% และคาดว่าส่งออกปี 2563 จะเพิ่มขึ้น 4.3% นอกจากนี้ กนง.กังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน จึงเห็นควรให้ติดตามการไหลเข้าของเงินทุนอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งระบุว่ามีหลายมาตรการที่พร้อมจะนำมาใช้ได้ ทั้งนี้ เราคาดว่าตลาดจะระมัดระวังมากขึ้น แม้ประเมินว่าทางการจะยังไม่ออกมาตรการเข้มงวดรุนแรงในช่วงนี้