นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ “ลมหายใจพีซทีวีเวทีทัศน์” ว่า บรรยากาศบ้านเมือง ณ ขณะนี้ เราสามารถดูได้อย่างสบายใจ ตนเชื่อว่าอย่างไรรัฐบาลนี้ก็ไปไม่รอด เพียงแต่ว่าจะจบอย่างไร เพื่อให้การเริ่มต้นใหม่นั้นไม่กลับมายังจุดเดิมอีก
ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับวันนี้ คือ รัฐธรรมนูญ ที่แม้จะแก้ไขได้ยาก แต่ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ หากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังคงอยู่ ไม่มีการแก้ไข ไม่ว่ารัฐบาลนี้จะล่มสักกี่ครั้ง สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ก็จะเลือกกลับมาใหม่อยู่ดี ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ตามบทเฉพาะกาล ที่ระบุไว้ให้ ส.ว.มีอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็พิสูจน์แล้วว่า วุฒิสภาทั้งหมดสั่งได้ ไม่มีการแตกแถว
อีกทั้งในระบบบัตรใบเดียวเช่นนี้ จะไม่มีพรรคการเมืองใด ได้มากกว่า 250 เสียง และยากที่จะสามารถรวบรวมเสียงให้ได้เกิน 375 เสียง หรือคือครึ่งหนึ่งของสองสภา ตราบใดที่ ส.ว.ยังมีอำนาจอยู่เช่นนี้ ก็ยากสำหรับการเปลี่ยนแปลง
“เราจะทำอย่างไร ที่จะฝ่าด่านรัฐธรรมนูญนี้ไปได้ ทำอย่างไรที่จะปลดล็อก ส.ว.ทำอย่างไรจะปลุกกระแสสังคม ให้ทุกคนพูดเรื่องเดียวกัน คือ แก้รัฐธรรมนูญ เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้วที่ฮ่องกง ในบ้านเมืองเราก็เช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม หากเรื่องราวที่มันใช่ กระแสสังคมก็สามารถพลิกสถานการณ์ อายุรัฐบาลวันนี้อย่างไรก็ไม่นาน เพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ไปแล้วไปลับ
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ถ้ารัฐธรรมนูญนี้ยังอยู่ อำนาจ ส.ว.ยังอยู่ เขาก็ต้องกลับมาอีก นี่คือปัญหาใหญ่ที่เราจะต้องขบคิดกัน ว่าเรื่องใหญ่จริงๆ คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ