หน้าแรกเศรษฐกิจ-การเงินกรุงไทย เผยผู้ประกอบการ SME ทำวิจัยและพัฒนาสินค้าเพียง 0.2%

กรุงไทย เผยผู้ประกอบการ SME ทำวิจัยและพัฒนาสินค้าเพียง 0.2%

กรุงไทยเผยมีผู้ประกอบการ SME ที่ทำวิจัยและพัฒนาสินค้าเพียง 0.2% ซึ่งปัญหาหลักเกิดจากการขาดบุคลากร เครื่องมือและข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่มีต้นทุนสูง แม้ทำวิจัยและพัฒนาสามารถช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และเพิ่มโอกาสรอดให้กับธุรกิจ หาไอเดียที่จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น หาความรู้และบุคลากร เพื่อนำไปสู่การเพิ่มรายได้และประสบผลสำเร็จของธุระกิจ

ดร.พชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส สายงาน Global Business Development and Strategy ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แม้การทำวิจัยและพัฒนา หรือ R&D จะช่วยให้เกิดนวัตกรรมทางสินค้า ลดต้นทุนการผลิต นำไปสู่การเพิ่มรายได้และโอกาสรอดของธุรกิจ แต่จากการทำบทวิจัยแล้วพบว่า ผู้ประกอบการ SME จำนวน 3 ล้านราย จะมีเพียงประมาณ 5 ถึง 6 พันรายเท่านั้นที่ทำ R&D หรือคิดเป็น 0.2% โดยเกิดจาก 3 อุปสรรค คือ ขาดบุคลากรและเครื่องมือ เข้าไม่ถึงข้อมูลเทคโนโลยีใหม่ๆ และต้นทุนการทำ R&D ที่สูงเกินไป อย่างไรก็ตามมีผู้ประกอบการหลายรายพบทางออกและสามารถประสบผลสำเร็จผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ


จากงานวิจัยในต่างประเทศพบว่า แม้บริษัทจะลงทุนด้าน R&D ไม่มากแต่หากสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ตรงจุดแระรวดเร็วก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ถึง 6-23% จึงอยากแนะนำว่าการทำ R&D ควรจะเรื่มหาไอเดียจาก Pain Point หรือปีญหาที่กวนใจในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้เข้าใจและคิดผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ ประกอบกับการทำ R&D จะทำให้ผลิตภัณฑ์โดดเด่นและการลอกเลียนแบบยากขึ้นและที่ผ่านมาบ่อยครั่งที่มี SME ที่ทำ R&D แล้วประสบผลสำเร็จมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่

อุปสรรคด้านต้นทุนที่สูงเกินไป มีหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินที่พร้อมจะสนันสนุนเงินทุนให้เปล่าและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เช่น โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของ สวทช. วงเงินกู้สูงสุด 30 ล้านบาท โครงการนวัตกรรมดี ไม่มีดอกเบี้ย โครงการ Startup&Innobiz วงเงินกู้สูงสุด 40 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ประกอบการประสบความสำเร็จ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศ ได้เทคโนโลยีจาก สวทช. ไปผลิตแป้งมันสำปะหลังไร้กลูเตนเจ้าแรกของไทย ได้ทีมวิจัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ มาร่วมผลิตเทคโนโลยีลดน้ำตาลในน้ำผลไม้ด้วยจุลินทรีย์ หรือได้พี่เลี้ยงมาจากอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย ช่วยทำเก้าอี้ทำฟันโดยใช้พลังงานจากลม เป็นต้น ส่วนแนวโน้มในการทำ R&D ในอนาคตว่าจะเพิ่มมากขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับผู้ประการ SEM ว่าต้องการพบทางรอดของธุริกิจในระยาวก็น่าจะทำ R&D อย่างแน่นอน


 

RELATED ARTICLES

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img