ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานายเลิศศักดิ์ บุญยืนวิทยะ อายุ 46 ปี และ หญิงสาวผู้เสียหายไม่ประสงค์ออกนาม จาก จ.ชลบุรี เดินทาง เข้าพบ รร้อยตำรวจเอก ปราโมทย์ ศุขศรีไพศาล รองสารวัตรสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (รองสว.สอบสวน กก.1 บก.ป.) เพื่อแจ้งความเอาผิดฐานฉ้อโกง กับเจ้าหน้าที่ทหาร ยศ จ.ส.อ. นายหนึ่งในสังกัดกรมจเรทหารบก (จ.ส.อ.ธรรมรัตน์ พักปิ่น) หลังหลอกดาวน์รถยนต์ผู้เสียหายก่อนเชิดรถหนี รวมมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท
นายรณณรงค์ฯ กล่าวว่า สำหรับทหารนายดังกล่าวนั้นจะมีพฤติการณ์เข้าไปทำทีติดต่อขอซื้อดาวน์รถยนต์ รุ่นต่างๆ กับทางผู้เสียหายที่มีการลงประกาศขายดาวน์รถยนต์ตามช่องทางต่างๆ โดยที่ยังไม่มีการเปลี่ยนสัญญาการซื้อรถกับทางไฟแนนช์ มีเพียงแค่การจ่ายเงินดาวน์ให้กับผู้เสียหายเจ้าของรถจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อได้รถของผู้เสียหายไปแล้วนายทหารคนดังกล่าวกลับนำรถไปขายต่อ และไม่มีการจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้กับเจ้าของรถรวมถึงไม่มีการส่งค่างวดรถให้กับทางไฟแนนซ์ ทำให้เจ้าของรถที่ยังมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรถต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่างวดรถส่วนที่เหลือ ที่ผ่านมาเฉพาะช่วงเดือนมกราคม ถึง เดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อถูกหลอกจากนายทหารคนดังกล่าวแล้วจำนวน 4 ราย จากพื้นที่จ.กรุงเทพฯ,จ.ชลบุรี,จ.กระบี่ และ จ.นครราชสีมา
นายรณณรงค์ฯ กล่าวต่อว่า โดยในส่วนของหญิงสาวผู้เสียหายรายนี้ที่ไม่ประสงค์ออกชื่อ นั้น จากการพูดคุยในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายทหารคนดังกล่าวได้ติดต่อผ่านคนรู้จักของผู้เสียหายรายนี้ผ่านทางเฟสบุ๊ค โดยทำทีเข้ามาขอซื้อรถยนต์กระบะในราคา 320,000 บาท ก่อนจะมีการตกลงทำสัญญาซื้อขายกันทางวาจา เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา โดยตกลงชำระงวดแรกในจำนวนเงิน 67,000 บาท งวดต่อไปจะจ่ายครั้งละ 9,000 บาท ทั้งนี้ผู้เสียหายเห็นว่าในช่วงที่มีการเจรจานั้น นายทหารคนดังกล่าวได้มีการนำบัตรประชาชนกับบัตรข้าราชการทหารมาแสดงตัวยืนยัน จึงเชื่อใจ อย่างไรก็ตามภายหลังจากได้รถไปแล้วนั้นนายทหารคนดังกล่าวกลับไม่ยอมชำระเงินค่างวดรถตามที่ตกลงกันไว้ โดยอ้างว่าติดปัญหาบางอย่าง ก่อนจะขาดหายการติดต่อไปในที่สุด ซึ่งเมื่อเดินทางไปตามหาที่บ้านพักย่านเกียกกาย ก็ไม่พบทั้งคนทั้งรถยนต์แต่อย่างใด
ด้าน นายเลิศศักดิ์ฯ กล่าวว่า ส่วนของตน ทหารนายนี้ติดต่อมาขอซื้อดาวน์รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโว้ ในราคา 95,000 บาท โดยอ้างว่าจะเป็นผู้ชำระค่างวดที่เหลือเอง แต่ยังไม่ขอทำการเปลี่ยนสัญญา ซึ่งเมื่อได้รถไปแล้วนั้นก็ออกลายเชิดรถหนีหายไปตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เบื้องต้น ร.ต.อ.ปราโมทย์ฯ ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมตรวจสอบพยานหลักฐานที่นำมามอบประกอบสำนวนสอบสวน ก่อนรายงานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง