ที่ จ.ตาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.นครราชสีมา พร้อมปฏิเสธวาทกรรมการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บรรดาผู้บริหารพรรคก็เป็นอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งชื่อพรรคพลังประชารัฐก็นำมาจากชื่อโครงการของรัฐ และโครงการของรัฐก็ไปเอาชื่อมาจากเพลงชาติ อย่างไรก็ตาม 4 รัฐมนตรีก็ถูกเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญกำหนดห้ามไว้ ด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
“อะไรที่เกินความพอดี และประชาชนจะเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบ ก็จะใช้คำพูดว่าไม่ได้สืบทอดอำนาจ แต่สืบทอดเจตนารมณ์ แต่ส่วนตัวมองว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างความสับสนในชีวิต” นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวถึงผลการตรวจสอบการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ว่า กกต.ไปวินิจฉัยประเด็นที่ผู้ร้องไม่ได้ร้อง ดังนั้นอยากจะทำอะไรก็ตามสบาย ซึ่งตนเคยพูดมาตลอดว่าปฏิบัติต่อพรรคการเมืองอื่นอย่างไรก็ควรปฏิบัติต่อพรรคพลังประชารัฐอย่างนั้น จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ กกต. หากเปรียบกรณีโต๊ะจีนก็เหมือนเป็นการประจานเรื่องนาฬิกา ดังนั้นสาระสำคัญของวันนี้ คือ จะปล่อยกันให้บ้านเมืองเดินต่อไปอย่างนี้ และจะปล่อยให้การเลือกตั้งเดินไปอย่างนี้หรือ
“ปัญหาใหญ่ของแผ่นดิน คือ พล.อ.ประยุทธ์ ตราบใดที่ยังอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี ปัญหาของประเทศก็จะไม่จบ ความอยุติธรรมก็ยังดำรงอยู่ ดังนั้นภารกิจของพรรคเพื่อชาติจึงมุ่งส่ง พล.อ.ประยุทธ์ กลับบ้าน พร้อมกับปลุกคนไทยหยุดการสืบทอดอำนาจอย่างเด็ดขาด” นายจตุพร กล่าว