พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลการจับกุม นายชิงตะ แซ่หว่าง อายุ 52 ปี ในฐานความผิด เป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทย ยื่นคำขอมีบัตรด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริง ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามหมายจับศาลจังหวัดฝาง โดยพบว่า นายชิงตะ ได้ยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรก ที่อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 ต่อมาอ้างว่าบัตรหาย เมื่อปี 2555 และ 2557 รวม 2 ครั้ง ที่อำเภอไชยปราการ โดยต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 ได้ยื่นขอมีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ ที่เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะนำหลักฐานดังกล่าว ไปใช้ดำเนินการประกอบธุรกิจทัวร์นำเที่ยวชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เฉิน หยาง ทราเวล กระทั่งตำรวจพบว่า ผู้ต้องหามีการปลอมแปลงพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อใช้ในการสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทย ก่อนที่ตำรวจท่องเที่ยว จะสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณซอยเพ็ชอินทร์ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ ยอมรับว่า แม้การกระทำลักษณะนี้ยังคงมีอยู่ แต่ลดน้อยลง ส่วนที่ยังพบการกระทำผิด เป็นการกระทำผิดในส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่ หลังจากตำรวจร่วมกับกรมการปกครอง ดำเนินการปราบปรามอย่างเข้มข้น พร้อมดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนรู้เห็นไปแล้ว ส่วนการตรวจสอบสถานประกอบการ หากเป็นไปในลักษณะสวมบัตรประชาชนไทย ได้ประสานกระทรวงพาณิชย์ เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ