พ.อ.ศิวะ หว่างอากาศ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองพลทหารม้าที่ 1 กองพันทหารช่างที่ 8 จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดกำลังพลเข้าปฏิบัติงาน เก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในพื้นที่เนิน 400 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ในขณะปฎิบัติหน้าที่ตรวจค้นทุ่นระเบิดได้เกิดเหตุ จ่าสิบตรี สุจินต์ จิตกรียาน ตำแหน่งพลขับรถ กองพลทหารม้าที่ 1 กองพันทหารช่างที่ 8 เหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด และเป็นแผลที่ตาซ้ายเป็น การเกิดความสูญเสียขาของกำลังพลทหารไทย เป็นรายที่ 11 นับตั้งแต่สถานการณ์ความขัดแย้ง ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เกิดขึ้น แม้ว่าฝ่ายไทยจะมีหลักฐานมากมายในการพิสูจน์ว่าประเทศกัมพูชา มีทุ่นระเบิดสังหารบุคคลไว้ในครอบครอง และนำมาใช้ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งอาจส่งผลต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง หากทุ่นระเบิดดังกล่าวยังคงตกค้างอยู่ในพื้นที่หลังการสู้รบ ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชา ยังคงปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อหลักฐาน เชิงประจักษ์ โดยปราศจากการตักเตือนจากประชาคมโลกซึ่งต่างเป็นภาคีสมาชิก ฯ ต่อความผิดในการละเมิดอนุสัญญา ฯ ที่กัมพูชาได้กระทำลงไป

ศทช. ได้ออกแถลงการณ์ความสูญเสียในการปฏิบัติหน้าที่ของทหารไทย จากการละเมิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ของฝ่ายกัมพูชาซึ่งมีเจตนาที่จะเพิกเฉยต่อพันธกรณี ในการทำลายทุ่นระเบิดคงคลัง ตลอดจนการห้ามผลิตและการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แต่กลับไม่มีบทลงโทษใดๆ เกิดขึ้นกับฝ่ายที่กระทำความผิด แสดงให้เห็นถึง การไม่มีการมาตรการควบคุมกำกับดูแลอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม อันส่งผลกระทบที่สั่นคลอนต่อกระบวนการสร้างสันติภาพภายในสังคมโลก จนเกิดคำถามว่าอนุสัญญาออตตาวา ควรเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคี ที่จะดำรงรักษาความศักดิ์สิทธิ์ไว้หรือไม่

แถลงการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติฉบับนี้ เป็นการยืนยัน ถึงเจตนารมณ์ที่จะสื่อถึงประชาคมโลก ในเรื่องของการเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาเคารพต่ออนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างเคร่งครัดและรับผิดชอบ ในจิตสำนึกด้านมนุษยธรรมที่พึงมีแก่มนุษยชาติว่าด้วยการยุติใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลซึ่งเป็นภัยเงียบที่ไม่แยกแยะระหว่างทหารหรือประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งเรียกร้องให้ รัฐภาคี ควรร่วมมือในการกำหนดมาตรการควบคุมและบังคับใช้การปฏิบัติตามพันธกิจของอนุสัญญา ฯ เพื่อการอยู่ร่วมกันภายใต้กติกาเดียวกัน ซึ่งก่อให้เกิดสันติภาพ ทั้งในระดับภูมิภาคและสังคมโลกได้อย่างแท้จริง

