การบ้านกู้วิกฤตศรัทธาสีกากี”ผบ.ต่าย” สอบผ่านฉลุย ชี้แก้ปัญหาฉับไว-ไม่โทษอดีต

85

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สื่อสำนักต่างๆ จะเฟ้นหาบุคคลที่มีบทบาทโดดเด่นในด้านต่างๆ รวมถึงมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในองค์กรและสังคม เพื่อยกให้เป็นบุคคลแห่งปี

ปลายปี 2567 “ประดู่แดง” ยกให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เหมาะที่จะเป็น “บุคคลแห่งปี” ของชาวสีกากี ด้วยเหตุผลที่ว่าตั้งแต่ต้นปี 2567 สำนักปทุมวันตกอยู่ในภาวะวิกฤตศรัทธา เกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กระทั่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งทั้งสองไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร.

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นภาพลักษณ์ขององค์กร ตำรวจส่วนใหญ่ต่างให้ความร่วมมือ มีนายตำรวจบางนายถึงขั้นการันตีว่าเป็นช่วงเวลาที่ทำงานแล้วสบายใจที่สุด

ต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับมารับตำแหน่งเดิม แต่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนก้าวสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร. เต็มตัว เดินหน้าปลุกขวัญให้ตำรวจมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง

ส่งผลให้สำนักปทุมวันเริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น โดยเฉพาะการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายในระดับต่างๆ ที่เป็นปัญหาเสมือนหนามตำใจของตำรวจทั่วประเทศ เพราะช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีแต่เสียงครหาว่าตำแหน่งมีไว้เซ้งลี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บริหารจัดการจนเสียงครหาหายไปอย่างสิ้นเชิง

แต่ปีนี้ “ประดู่แดง” ประเมินจากผลงานต่างๆ พบว่าสามารถกู้ภาพลักษณ์ให้องค์กรตำรวจดีวันดีคืน ประชาชนขานรับเพราะความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมีมากกว่ายุคที่ผ่านมา การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ปรากฏผลงานให้เห็นเป็นระยะๆ

รวมถึงการปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขอยกผลงานช่วงวันที่ 1 ตุลาคม – 18 พฤศจิกายน 2568 ระยะเวลาแค่ 43 วัน จับกุมคดียาเสพติดได้ถึง 39,924 คดี ได้ผู้ต้องหา 39,934 คน ยึดทรัพย์ได้กว่า 800 ล้านบาท ยึดยาบ้าได้ 183,347,369 เม็ด ยาไอซ์ 4,243 กิโลกรัม เคตามีน 1,346 กิโลกรัม เฮโรอีน 91.99 กิโลกรัม และยาอี 80,402 เม็ด

ยามที่บ้านเมืองเกิดวิกฤต พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จะสั่งการแบบอัตโนมัติให้ตำรวจลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนก่อนที่รัฐบาลจะมีคำสั่งออกมาด้วยซ้ำ อาทิ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 8 จังหวัดปลายด้ามขวาน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สั่งระดมตำรวจทุกหน่วย อาทิ ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เข้าช่วยเหลือทันที ทั้งเปิดค่าย ตชด. เป็นศูนย์พักพิง เปิดโรงครัวประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย จัดแพทย์ลงพื้นที่ดูแลผู้ประสบภัย รวมถึงนิติเวชร่วมชันสูตรศพ เป็นต้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและปลุกขวัญตำรวจที่ประสบภัย พร้อมโชว์ภาวะผู้นำสั่งย้าย ผกก.สภ.หาดใหญ่ ทันที หลังพบว่าไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ แถมทิ้งให้ตำรวจทั้งโรงพักต้องเผชิญภัยน้ำท่วมกันตามลำพัง

หรือเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วงเดือนกรกฎาคม และเหตุปะทะล่าสุด สั่งให้ ตชด. ระดมกำลังช่วยเหลือชาวบ้านตามแนวชายแดน ให้เปิดค่าย ตชด. เป็นศูนย์พักพิงผู้อพยพ จัดชุดลาดตระเวนดูแลบ้านเรือนประชาชนที่อพยพ

ขณะที่งานด้านอื่นๆ อาทิ งานสอบสวนที่เคยอยู่ในภาวะวิกฤตช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะผู้มีอำนาจในยุคนั้นละเลย ปล่อยให้นายพลเด็กบริหารจัดการตามอำเภอใจ งานสอบสวนระบบแท่งที่ดึงดูดใจให้พนักงานสอบสวนทำงานอยู่เต็ม ถูกทำลาย ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น

อีกบทบาทหนึ่งที่ถือว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สอบผ่านในฐานะผู้นำ นั่นคือการตัดสินใจแก้ปัญหาแบบฉับไว เพื่อป้องกันไม่ให้องค์กรตำรวจตกเป็นเป้าให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์แบบไฟลามทุ่ง อาทิ กรณีปล่อยคลิปเสียงสนทนาของผู้การฯ กับตำรวจหน้าเสื่อ ประเด็นเก็บส่วย คลิปเสียงถูกแพร่ผ่านสื่อโซเชียลไม่กี่ชั่วโมง มีคำสั่งย้าย ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เข้าประจำ ศปก.ตร. ทันที พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง

หรือกรณีที่มีอินฟลูเอนเซอร์บางคนแฉว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (บช.ภ.8) มีการซื้อขายตำแหน่งระดับรอง ผบก.-สารวัตร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เรียก ผบช.ภ.8 และรอง ผบช.ภ.8 เข้าชี้แจงทันที พร้อมกำชับอย่าให้เกิดขึ้นเด็ดขาด พร้อมคาดโทษ

หากได้ติดตามการบริหารของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นับแต่วันที่เข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. เต็มตัวมาเกือบ 1 ปี ไม่เคยโทษอดีต ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นเดินหน้าแก้ไข ไม่ได้ยินเสียงบ่นเลยว่าปัญหานี้เกิดขึ้นในยุค ผบ.ตร. คนนี้หรือ ผบ.ตร. คนนั้น แตกต่างกับอดีตนายกรัฐมนตรีบางคน เมื่อแก้ปัญหาไม่ได้จะโยนไปที่อดีตนายกฯ คนก่อน

ดังนั้นถ้าจะให้คะแนน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ในการบริหารจัดการสำนักปทุมวัน เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา ถือว่าสอบผ่านฉลุยแบบดีวันดีคืน

แต่ที่ “ประดู่แดง” ยังไม่ยกให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เป็นบุคคลแห่งปี 2568 แม้งานหลายด้านจะเดินหน้าแบบที่ตำรวจและประชาชนพึงพอใจ เพราะอยากรอให้ผลงานหลายๆ ด้าน อาทิ ช่วงการเลือกตั้ง ส.ส. ถ้าไร้เหตุยิงกันเจ็บตายเพราะปมการเมือง เป็นผลดีอย่างยิ่ง และคดีที่ตำรวจประพฤตินอกรีตมีอยู่หลายคดียังไม่มีบทสรุปเป็นที่ประจักษ์ อาทิ คดีเกี่ยวกับอดีต พล.ต.อ. สองนาย และคดีคลิปเสียงผู้การฯ สั่งเก็บส่วย เป็นต้น

เชื่อว่าภายใน 9 เดือนของปี 2569 ก่อน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เกษียณอายุ คงจะมีความชัดเจนมากขึ้น แล้วจะขอยกให้เป็นบุคคลแห่งปี 2569 แม้จะเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม!!!