วันที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.หัวหมาก พร้อมด้วย ชุดปฎิบัติการ MPB. S.W.A.T. สน.หัวหมากภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.หัวหมาก,พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ ทารักษ์ รอง ผกก.สส.สน.หัวหมาก สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก พ.ต.ท.บำเพ็ญ นามฉวี ว.สส.สน.หัวหมาก,ร.ต.อ.สิทธิพร พุทธชัย,ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ ยานุพรม รอง สว.สส.สน.หัวหมาก,ร.ต.ท.ยุทธนา แหวนนิล,ร.ต.ต.กิตติศักดิ์ ทาสีทอง รอง สว.(สส.)สน.หัวหมาก,ด.ต.สิทธิชัย ทองสินสร,ด.ต.ทักษ์พัทธพล มะลิพันธ์,จ.ส.ต.นราวิชญ์ ยอดวีระพงศ์,ส.ต.อ.ทศพล สุภาวงศ์,ส.ต.ท.ภัทรวัจน์ พรมวงศ์,ส.ต.ท.ณัฐนันท์ ชุ่มมั่น ผบ.หมู่.สส.สน.หัวหมาก ร่วมกันจับตัว นายพงศ์ธร (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์และยาเสพติด พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์และบัตรประชาชนผู้อื่นจำนวนมาก เน้นรถที่เสียบกุญแจทิ้งไว้
การจับกุมครั้งนี้เริ่มจากการที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหอพักแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 24 แยก 8 พบตัวนายพงศ์ธรพร้อมของกลาง “ยาไอซ์” และจากการขยายผล นายพงศ์ธรยอมรับสารภาพว่าตนเองมีพฤติกรรมตระเวนลักรถจักรยานยนต์ โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าของรถ “เสียบกุญแจคาทิ้งไว้”- คดีที่ 1 ลักรถ จยย. ยี่ห้อ Honda Lead สีแดง จากหน้าตึกอธิการบดี ม.รามคำแหง (22 ธ.ค. 68) ก่อนนำไปขายในราคา 13,400 บาท – คดีที่ 2: ลักรถ จยย. ยี่ห้อ Yamaha Finn จากพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งตรวจยึดคืนมาได้นอกจากรถจักรยานยนต์และชุดที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่ยังพบทรัพย์สินต้องสงสัยอีกหลายรายการ ได้แก่ – รถจักรยานยนต์ Yamaha Finn (ทะเบียน 9ขญ 9417 กทม.) – กุญแจรถ จยย. หลายดอก – บัตรประชาชน บัตรนักศึกษา และบัตร ATM ของผู้อื่น รวม 7 รายการ (อ้างว่าเก็บได้ตามทาง)
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า นายพงศ์ธรไม่ใช่รายใหม่ แต่เป็น “มืออาชีพ” ที่มีคดีติดตัวย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันรวม 10 คดี ทั้งคดีทำร้ายร่างกาย, เสพยาเสพติด และที่หนักที่สุดคือ “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” หลายท้องที่ ทั้งในจ.นครสวรรค์ และกรุงเทพฯเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พร้อมทั้งรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์” เพิ่มเติมต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.หัวหมากฝากเตือนถัยประชาชนให้ระมัดระวังอย่าประมาทเสียบกุญแจรถทิ้งไว้แม้เพียงนาทีเดียว เพราะอาจตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพที่จ้องฉวยโอกาสได้ตลอดเวลา

