กรุงเทพฯ, วันที่ 26 ธันวาคม – นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีไม่เข้าร่วมเวทีดีเบตทางการเมืองว่า ขณะนี้ตนยังทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ประเทศไทยมีปัญหาหลายด้านที่ต้องเร่งจัดการ และประเทศต้องมีรัฐบาลทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้ตนต้องเข้าประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณาประเด็นด้านอธิปไตย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก
นายอนุทิน ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือ ยุติความหวาดกลัวของพี่น้องประชาชน รวมถึงความสูญเสียของทหารให้ได้โดยเร็ว ส่วนเรื่องการหาเสียงนั้น พรรคภูมิใจไทยได้เปิดตัวนโยบายไปแล้วก่อนหน้านี้ และใช้เวลาของประชาชนไปพอสมควร หลังจากนี้ยังมีเวลาอีกกว่า 40 วัน ที่ผู้สมัครและพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะนำเสนอนโยบายให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง
“สไตล์การทำงานของผม ผมไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งทุกเรื่อง ถ้าผมเก่งทุกอย่าง คงประสบความสำเร็จเร็วกว่านี้ ผมทำงานเป็นทีม ใครถนัดด้านไหนก็ให้ทำด้านนั้น ส่วนตัวผมไม่ใช่คนพูดเก่ง ไม่ชอบการตอบโต้ ไม่อยากไปกล่าวหาใคร หรือไปนั่งแก้ตัวในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าว
นายอนุทิน ยังระบุด้วยว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วขึ้นเวทีดีเบต ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เพราะยังมีภารกิจของประเทศอยู่ในหัวตลอดเวลา ไม่สามารถสลับบทบาทได้ทันที จึงเลือกโฟกัสการทำงานให้เต็มที่ พร้อมย้ำว่ามีความชัดเจนในนโยบาย “ภูมิใจไทยพลัส” และตั้งใจทำงานตามที่ได้ประกาศไว้ “ผมพูดไม่เก่ง และการพูดในเวทีดีเบตที่มีเวลาจำกัด บางครั้งได้พูดกันแค่คนละ 2 นาที ไม่ใช่รูปแบบที่ผมถนัด ผมจะทำได้ดีกว่าเมื่อมีโอกาสอธิบายอย่างเป็นระบบ หากต้องไปนั่งตอบโต้ข้อกล่าวหาก่อน ยังไม่ทันได้นำเสนอนโยบาย ก็อาจทำให้เสียเวลาของผู้ฟัง”
นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนมีแนวทางการสื่อสารกับประชาชนในแบบของตนเอง และยังมีเวลาอีกกว่า 40 วันที่จะเดินสายพบพี่น้องประชาชนโดยตรง เพื่อส่งต่อนโยบายของพรรคภูมิใจไทยให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจน

