สกมช. เปิดตัวแพลตฟอร์มกลาง Sectoral CERT แบบรวมศูนย์ ยกระดับการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ของประเทศสกมช. เดินหน้าพลิกโฉมการรับมือภัยไซเบอร์ของประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลจากหลายหน่วยงาน เพิ่มความรวดเร็วในการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคาม พร้อมยกระดับมาตรฐานไซเบอร์ระดับชาติ

วันที่ 22 ธันวาคม 2568 — สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) จัดงานประชาสัมพันธ์กิจกรรมการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางเพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง Sectoral CERT แบบรวมศูนย์ (Centralized Sectoral CERT Management Platform Development) ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น โดยมีหน่วยงานภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวว่า การพัฒนาแพลตฟอร์มกลางดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทย ท่ามกลางบริบทที่โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลได้เข้าไปมีบทบาทในทุกภาคส่วน ขณะเดียวกันภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อน เชื่อมโยงเป็นวงกว้าง และส่งผลกระทบในระดับประเทศมากขึ้น โดยการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ในปัจจุบันไม่สามารถดำเนินการแบบต่างคนต่างทำได้อีกต่อไป จำเป็นต้องอาศัยการเชื่อมโยง ประสานงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างเป็นระบบ แพลตฟอร์มกลางเพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง Sectoral CERT แบบรวมศูนย์จึงถูกพัฒนาขึ้นในฐานะ “กลไกเชิงโครงสร้าง” ที่ช่วยให้หน่วยงานในภาคส่วนเดียวกันสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีเอกภาพ มีมาตรฐานเดียวกัน และเชื่อมโยงกับกลไกความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับชาติ

จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สกมช. อธิบายว่า จุดเริ่มต้นของโครงการฯ มาจากการวิเคราะห์ปัญหา การดำเนินงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งพบข้อจำกัดสำคัญ ได้แก่ การที่ข้อมูล ด้านความมั่นคงปลอดภัยกระจายอยู่หลายระบบ การตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่ล่าช้าจากกระบวนการแบบ Manual การขาดแคลนบุคลากรด้าน SOC และการขาดการบูรณาการข้อมูลและการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ แพลตฟอร์มกลาง Sectoral CERT แบบรวมศูนย์จึงถูกออกแบบมาเพื่อรวบรวมและเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบด้านความมั่นคงปลอดภัยหลายประเภทไว้ในจุดเดียว สนับสนุนการเฝ้าระวังและวิเคราะห์เหตุการณ์แบบ Real-time ใช้ Automation และ Threat Intelligence ช่วยลดภาระบุคลากร เพิ่มความรวดเร็วในการตรวจจับและตอบสนองต่อเหตุการณ์ รวมถึงเสริมประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคามระหว่างหน่วยงาน
นอกจากนี้ สกมช. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา “คน” ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยี โดยได้จัดกิจกรรมอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้บุคลากรสามารถเข้าใจบทบาทของ Sectoral CERT และใช้งานแพลตฟอร์มกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเฝ้าระวัง ตรวจจับ วิเคราะห์ ไปจนถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ไซเบอร์ร่วมกันอย่างเป็นระบบ

สำหรับหน่วยงานที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สกมช. เปิดโอกาสให้สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มกลาง Sectoral CERT ได้อย่างเป็นระบบ ผ่านการประสานงานกับ ThaiCERT พร้อมทั้งสนับสนุนด้านมาตรฐานการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการสร้างเครือข่ายความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ในภาพรวมของประเทศ
เลขาธิการ สกมช. กล่าวทิ้งท้ายว่า แพลตฟอร์มกลางเพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง Sectoral CERT แบบรวมศูนย์ จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ภาคธุรกิจ และสังคมไทย พร้อมขับเคลื่อนประเทศไปสู่สังคมดิจิทัลที่มีความมั่นคงปลอดภัย และเข้มแข็ง

