จากกรณีนายวิทวัช ฯอายุ 16 ปี อาชีพขับโบลท์ ขี่รถ จยย.ะเบียน 9 ขข 8509 กรุงเทพมหานคร ถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงหน้าอกขวา เหนือราวนม 1 แผล เสียชีวิตอยู่บริเวณริมฟุตปาธ ปากซอยสายไหม 74/ก แขวงและเขตสายไหม กทม.เมื่อช่วงกลางดึกของวานนี้ (20 ธ.ค.) ภายหลังพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุจากกล้องหน้ารถ กระทั่งชุดสืบสวน ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธงชัยฯ อายุ 44 ปี อาชีพไรเดอร์ (ไลน์แมน) ขี่รถ จยย.ทะเบียน 9 ขก 7206 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป สาเหตุเกิดจากขี่รถจยย.เฉี่ยวชนกัน และขี่ไล่ตามกันมา ก่อนคนร้ายลงมาทำร้ายร่างกายผู้ตายและใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 21 ธ.ค. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.2 รับรายงานจาก พ.ต.อ.อธิบดี เสริมสุข ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ธณัฐพงศ์ กิรัมย์ ผกก.สน.สายไหม พ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รอง ผกก.สส.สน.สายไหม พ.ต.ท.ธนภัทร กำลังแรง สว.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ไพจิตร นุสีวอ สว.สส.สน.สายไหม พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน บก.น.2 และสน.สายไหม สามารถติดตามจับกุมตัว นายธงชัยฯ หรือกบ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1841/2568 ลงวันที่ 21 ธ.ค.2568 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นฯโดยเจตนา, พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านโดยเปิดเผย หรือไม่มีเหตุอันควร” พร้อมของกลาง ชุดที่สวมใส่วันก่อเหตุ, รองเท้าผ้าใบเปื้อนเลือด 1 คู่ และรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว แผ่นป้ายทะเบียน 9 ขก 7206 กรุงเทพมหานครที่นำไปถอดทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.บางพลี โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในตำบลบางพลีน้อย อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
จากการสืบสวนพบว่า หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจยย. หลบหนีเข้าไปในพื้นที่ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และมีการถอดป้ายทะเบียน โดนทิ้งไว้ในพื้นที่บางพลีเพื่ออำพรางหลบหนี
ต่อมาเวลา 18.30 น.ที่สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สายไหมและสืบสวน บก.น.2 ควบคุมตัวนายธงชัย ทับเปรม ผู้ก่อเหตุเพื่อมาสอบปากคำ
โดยขณะเจ้าหน้าที่นำตัวนายธงชัย ลงจากรถ ผู้สื่อข่าวจึงได้พยายามสอบถามผู้ต้องหาว่า ทำไมถึงต้องก่อเหตุ ด้าน นายธงชัย กล่าวว่า “เหตุการณ์มันไวมาก ตนไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นเด็ก ปัญหาเกิดจากมันไม่เข้าใจกัน เข้าใจกันไม่ลง น่าจะคิดกันสักนิดนึงก่อนที่จะลงมือ พูดตรง ๆ เลยว่ารู้สึกเสียใจมาก”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่ยแท้จริง
