ทุกปลายปี ลมหนาวไม่ได้พัดมาเพียงอุณหภูมิที่ลดต่ำลง หากยังพัดพาความงามอันแสนสั้นของ “พญาเสือโคร่ง” ให้ผลิบานแต่งแต้มยอดดอยภูคาเป็นสีชมพูราวภาพฝัน ช่วงเวลาที่ธรรมชาติเปิดม่านต้อนรับผู้เดินทาง ให้ได้เห็นซากุระเมืองไทยในห้วงเวลาที่งดงามที่สุด
ดอยภูคาในฤดูสีชมพู
เมื่อสายลมหนาวแรกของปลายเดือนธันวาคมพัดผ่านเทือกเขาสลับซับซ้อนแห่งเมืองน่าน ดอยภูคาก็เริ่มเปลี่ยนสีจากเขียวเข้มของผืนป่า เป็นชมพูอ่อนละมุนของดอกพญาเสือโคร่ง ดอกไม้ป่าที่ออกดอกเพียงปีละครั้ง และบานอยู่ไม่นานนัก ราวกับเตือนใจว่าความงามของธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่และเปราะบางเพียงใด
การสำรวจล่าสุดของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เผยให้เห็นภาพแห่งการเริ่มต้นฤดูสีชมพูอย่างชัดเจน บริเวณบ้านพัก 103 ไล่ต่อเนื่องไปยังลานจอดรถหมายเลข 104–107 ดอกพญาเสือโคร่งพร้อมใจกันเบ่งบานแล้วกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ กลายเป็นฉากหลังยอดนิยมที่ท้องฟ้าสีครามตัดกับพุ่มดอกไม้สีชมพูอย่างงดงาม ราวภาพวาดที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นเอง
บนเส้นทางมุ่งหน้าสู่บ้านเกวียน สีชมพูเริ่มทอดยาวตลอดสองข้างทางประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ผู้ที่ขับรถผ่านจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกราวกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อุโมงค์ดอกไม้ในดินแดนหนาวเย็น ความเงียบสงบของป่า ผสานกับกลีบดอกที่ไหวเอนตามลม สร้างช่วงเวลาที่ชวนให้ชะลอจังหวะชีวิตลงโดยไม่รู้ตัว
สำหรับนักท่องเที่ยวสายพักแรม ลานกางเต็นท์ดูเดือน ลานดูดาว และบริเวณหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ดอกพญาเสือโคร่งเพิ่งเริ่มคลี่กลีบออกมาเพียง 15–20 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เพียงพอให้รับรู้ถึงการเติบโตของฤดูที่กำลังจะมาถึง เจ้าหน้าที่คาดว่าในสัปดาห์ถัดไป พื้นที่เหล่านี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นชมพูเข้มข้นยิ่งขึ้น
จุดชมวิว 1715 จุดสูงสุดที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคยกับภาพทะเลหมอกยามเช้า ขณะนี้มีดอกพญาเสือโคร่งบานแล้วราว 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่บริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ 101 ก็เริ่มมีสีชมพูแซมเขียวของผืนป่าประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นสัญญาณว่าความงามกำลังค่อยๆ แผ่ขยายไปทั่วดอย
ดอกพญาเสือโคร่งไม่ได้บานเพื่อเรียกร้องความสนใจ หากแต่บานตามจังหวะของธรรมชาติ และร่วงโรยเมื่อถึงเวลา ด้วยเหตุนี้เอง ช่วงปลายเดือนธันวาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนมกราคม จึงถูกขนานนามว่าเป็น “ช่วงเวลาทอง” ของดอยภูคา ช่วงเวลาที่ผู้คนจากสารทิศต่างมุ่งหน้าขึ้นดอย เพื่อเก็บภาพ เก็บความทรงจำ และเก็บความรู้สึกที่ยากจะหวนกลับมาได้อีกในปีเดียวกัน
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จึงขอเชิญชวนนักเดินทางทุกคน มาสัมผัสอากาศหนาวเย็น ชมความมหัศจรรย์ของพญาเสือโคร่ง และปล่อยใจให้พักพิงอยู่ท่ามกลางสวรรค์สีชมพูบนยอดดอยเมืองน่าน ในห้วงเวลาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ที่ธรรมชาติได้มอบของขวัญล้ำค่าไว้ให้เพียงชั่วครู่
ขอบคุณกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
