กมธ.เศรษฐกิจฯ ฟันธง ศก.ไทยปีหน้า “สาหัส”จีดีพีดิ่งต่ำ 2% พิษภาษีสหรัฐฯ–ศึกชายแดนซ้ำเติม

93

กมธ.เศรษฐกิจฯ วุฒิสภา คาด ศก.ไทยปีหน้าสาหัส จีดีพีต่ำกว่าร้อยละ 2 ภาษีนำเข้าสหรัฐฯ กระทบส่งออก สู้รบไทย-กัมพูชา สูญเงินเฉพาะท่องเที่ยวเฉลี่ยเดือนละ 1.4 หมื่นล้านบาท

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม น.ส.ชญาน์นันท์ ติยตระการชัย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง วุฒิสภา กล่าวถึงภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยปี2568 และทิศทางเศรษฐกิจในปี 2569 หลังเผชิญการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาและปัญหาการสู้ระบบไทย-กัมพูชาว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย เคยประมาณการไว้ว่าจะเติบโตได้ราว 2.2-.2.5 เปอร์เซ็นต์ แต่คงไม่เป็นไปตามเป้า เพราะเกิดปัญหาขึ้นหลายอย่างในช่วงไตรมาสสุดท้ายทั้งปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่ การสู้รบแนวชายไทย-กัมพูชา ขณะที่รายได้หลักของไทมากส่งออกเป็นหลัก

น.ส.ชญาน์นันท์เห็นว่า ปัญหาดังกล่าวทำให้เศรษฐกิจของไทยใน 3 ไตรมาสแรก ดูเหมือนจะดี เพราะมีการเติบโตมากถึง 3 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็เป็นเพราะการส่งออกล่วงหน้าในครึ่งปีแรก เพื่อหนีปัญหาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่เมื่อดูเติบโตเป็นอันดับที่ 6 ในอาเซียน เหนือกว่าเมียนมาร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ไตรมาสสามเหลือการเติบโตเพียง 1.2 เปอร์เซ็นต์

น.ส.ชญาน์นันท์กล่าวว่า จากหลายปัจจัยดังกล่าว ทำให้ส่วนตัวแล้วคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2569 จะหนักกว่าปี 2568 การเติบโตของจีดีพีลดลง เพราะการใช้จ่ายภาครัฐและการบริโภคของภาคเอกชนลดลง ตัวเลขล่าสุดปีนี้เพียง 2.1 เท่ากับช่วงโควิดในปี 2019 ปี 2569 อาจเหลือเพียง 1.7-1.9 เท่านั้น

“ตามท้องถนน ตลาดย่านค้าขายในบ้านเรา รวมห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะคนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย ไม่ใช่เพราะคนมีเงินแล้วไม่ใช้เงิน หนี้ครัวเรือนก็สูงมากขึ้น จะใช้จ่ายอะไร ก็ต้องระมัดระวัง ขณะที่คนมีเงินก็ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกดี ๆ กับสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้” ส.ว.และเลขานุการคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจฯ ให้ความเห็น

น.ส.ชญานันท์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ไทยยังขาดเสถียรภาพทางการเมือง 1 ปีครึ่งมีนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน ยอดนักท่องเที่ยว ก็ไม่เป็นไปตามเป้า ซ้ำเติมปัญหาการส่งออก รวมถึงปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่หอการค้าไทยประเมินตัวเลขความเสียหายไว้ที่ 4 หมื่นล้านบาท หรือ 0.22 ของจีดีพี ผีซ้ำด้ามพลอย ยังมีปัญหาชายแดนอีก จนกระทบการส่งออกจาก 9 หมื่นล้านบาท หรือเพียง 9 ล้านบาทในเดือนตุลาคมเท่านั้น ล่าสุดก็กลายเป็นศูนย์ไปแล้ว

ส.ว.และเลขานุการคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจฯ วุฒิสภา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาไทย-กัมพูชา เฉพาะด้านท่องเที่ยวเสียหายเดือนละ 1.4 หมื่นล้านบาท หากการปัญหายังยืดเยื้อ จะทำให้ตัวเลขความเสียหายพุ่งสูงขึ้นถึง 0.5 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีไทย.