ตร.ท่องเที่ยวกรุงรวบหนุ่มแดนกิมจิ หนีหมาย Blue Notice ซ่อนตัวบางนา หลอกลงทุนเพื่อนร่วมชาติ เสียหายเกือบ 100 ล้านวอน

150

ตำรวจท่องเที่ยวกรุงเทพฯ สนองนโยบายกวาดล้างอาชญากรรมก่อนปีใหม่ บุกจับชาวเกาหลีใต้ตามหมาย Blue Notice คดีหลอกลงทุน พบซุกยาไอซ์-อยู่เกินวีซ่า เร่งดำเนินคดีและประสานส่งตัวกลับประเทศ

ตำรวจท่องเที่ยวกรุงเทพฯ รวบหนุ่มชาวเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาตามหมาย Blue Notice คดีหลอกลวงชักชวนลงทุนเพื่อนร่วมชาติ สร้างความเสียหายกว่า 96.9 ล้านวอน หลังหลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในพื้นที่เขตบางนา กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจพบยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) ภายในห้องพัก

การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2569 ระหว่างวันที่ 17–25 ธันวาคม 2568 เพื่อป้องกันอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงตรวจสอบชาวต่างชาติที่หลบหนีคดีหรือแฝงตัวก่อเหตุในประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว

ภายใต้การอำนวยการของ​ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.​พล.ต.ต.มล.สันธิกร วรวรรณ และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดนุ กล่ำสุ่ม ผบก.ทท.1 และคณะผู้บังคับบัญชา บก.ทท.1ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามกลุ่มชาวต่างชาติที่หลบหนีคดีเข้ามาอาศัยในประเทศไทย

จากการสืบสวนพบว่า Mr. Song Jinhyeok อายุ 34 ปี สัญชาติสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ผู้ต้องหาตามหมาย Blue Notice ในคดีฉ้อโกงลงทุน มีผู้เสียหายเป็นชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ Bearing Residence แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ตำรวจท่องเที่ยว กก.1 บก.ทท.1 ได้นำหมายค้นศาลแขวงพระโขนงที่ 171/2568 เข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว พบตัวผู้ต้องหาอยู่ภายในห้อง และตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนัก 1.82 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ

ตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่า ผู้ต้องหาเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 จึงแจ้งข้อกล่าวหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนระหว่างประเทศต่อไป