ทำเนียบรัฐบาล, วันที่ 12 ธันวาคม – นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจยุบสภาว่า เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชนตามครรลองประชาธิปไตย และยืนยันชัดเจนว่า ตลอดการทำหน้าที่รัฐบาล พรรคภูมิใจไทยไม่เคยฉีกหรือฝ่าฝืนข้อตกลงตามบันทึกความเข้าใจ (MOA) ที่ทำร่วมกับพรรคประชาชนแต่อย่างใด การเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ตั้งอยู่บนกรอบ MOA ซึ่งมีข้อตกลงหลัก 4-5 ประเด็น และพรรคภูมิใจไทยปฏิบัติตามมาโดยตลอด โดยเฉพาะความพยายามผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใต้เงื่อนไขที่ตกลงร่วมกันไว้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นการแก้ไขมาตรา 256/28 เพื่อเปลี่ยนแปลงอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่เคยถูกบรรจุอยู่ใน MOA มาก่อน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เมื่อหัวหน้าพรรคประชาชนประกาศจุดยืนในรัฐสภาว่า หากพรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนแนวทางดังกล่าว พรรคประชาชนจะไม่ให้การสนับสนุนรัฐบาลต่อ และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจยุบสภา ตนจึงดำเนินการตามนั้น เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติพรรคที่สนับสนุนให้เข้ามาเป็นรัฐบาลตั้งแต่ต้น และเป็นไปตามมารยาททางการเมือง
“ไม่มีการหักหลัง ไม่มีการผิดสัญญา ขอให้ดูเนื้อหาในเอ็มโอเออย่างตรงไปตรงมา เรื่องอำนาจของ สว. ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง เราไม่สามารถไปบังคับหรือสั่งการ สว. ให้โหวตตามที่ใครต้องการได้” นายอนุทินกล่าว พร้อมย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยยังคงรักษาเงื่อนไขสำคัญใน MOA เช่น การไม่เพิ่มจำนวน สส. และไม่ใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อเป็นเสียงข้างมากอย่างที่สามารถทำได้” นายกรัฐมนตรีระบุ
ทั้งนี้นายอนุทินยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญในคำถามแรก หากเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยอำนาจของ ครม.รักษาการยังสามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นการทำตามข้อตกลงและเจตนารมณ์ของ MOA อย่างครบถ้วน สำหรับการยุบสภานั้นเป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญที่เตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เนื่องจากรัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ทำหน้าที่เพื่อคลี่คลายปัญหาที่ค้างคา ทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีนานาชาติ เมื่อถึงจุดที่พรรคผู้สนับสนุนไม่ประสงค์ให้รัฐบาลเดินหน้าต่อ การคืนอำนาจให้ประชาชนจึงเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด และยืนยันว่า ตลอดระยะเวลาการทำหน้าที่ ไม่เคยมีการฉีกหรือบิดเบือน MOA แต่อย่างใด

