เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2568 นายสายยนต์ สวัสดิ์เดช อายุ 56 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 15.30 น. ขณะตนกำลังทำงานอยู่ มีเพื่อนโทรมาสอบถามว่าได้เจอลูกสาวตนเองบ้างมั้ย ไม่ได้เจอมานานแค่ไหนแล้ว ตนจึงตอบกลับไปว่าไม่ได้เจอลูกมาราว 2-3 อาทิตย์แล้ว เพื่อนจึงบอกงั้นให้รีบกลับมาที่เอื้ออาทร คู้บอน 27 ตึก 52 เพราะได้กลิ่นเหม็นแรงโชยออกมาจากภายในห้อง คาดว่าจะเป็น น.ส.ไอริน สวัสดิ์เดช อายุ 19 ปี (น้องยี่) ลูกสาวของตน จากนั้นจึงได้รีบกลับมาที่ เอื้ออาทร ตึก 52 ห้องของนายธนาธัญ สติปัญญา อายุ 34 ปี แฟนหนุ่มของน้องยี่ รอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว มาถึง ในเวลา 16.00น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการเคาะเรียกผู้ที่อยู่ภายในห้อง พบนายธนาธัญ เปิดประตูออกมา ภายในห้องพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์ และพบร่างของ น.ส.ไอริน นอนสภาพเปลือยกาย ร่างกายบวมอืดและมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย อีกห้องพบมารดาของผู้ก่อเหตุถูกขังเอาไว้ไม่ให้ออกไปไหน จึงได้ควบคุมตัวนายธนาธัญ และนำตัวส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ดำเนินคดี ก่อนประสานไปยังตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้ามาดำเนินการหาหลักฐานสาเหตุการตาย
จากการสอบสวนนายธนาธัญให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.ไอริน จริงโดยมีการซ้อมทุบตีจนเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. จากนั้นได้ใช้ถ่านสำหรับก่อไฟหุงต้มมาทาทั่วร่างกายของศพ เพื่อที่จะไม่ให้มีกลิ่นเหม็น แล้วใช้ชีวิตอยู่กับศพตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมานาน 17 วัน พร้อมขังแม่เอาไว้ในห้องด้วยไม่ให้ออกไปไหน จนกระทั่งศพเริ่มอืดและเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา จนทำให้คนบริเวณข้างห้องได้กลิ่นจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งไปยังพ่อของน้องยี่ จนกระทั่งนำมาสู่การจับกุมนายธนาธัญได้ในครั้งนี้
ด้านพ่อของผู้เสียชีวิต เผยว่า ตนเสียใจกับการจากไปของลูกสาวมาก ตนเคยเตือนลูกสาวหลายครั้งแล้วเรื่องการคบกับนายธนาธัญ เพราะนายธนาธัญเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบเสพยา เสพติด ระหว่างคบกันในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนี้ ก็มีการทำร้ายร่างกายน้องยี่อยู่บ่อยครั้ง พ่อพักอยู่ตึก 26 น้องยี่ไปอยู่ห้องนายธนาธัญ ตึก 52 เวลาถูกทำร้ายก็จะกลับมาพักที่ห้อง พ่อก็จะเห็นรอยฟกช้ำตามร่างกายอยู่บ่อยครั้ง มีครั้งหนึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม รุนแรงถึงขั้นใช้ท่อนเหล็กตีที่สนามตะกร้อ ก่อนจะลากไปกว่า 50 เมตร เพื่อเอาเข้าห้องจนถึงขั้นพ่อต้องพาไปแจ้งความ ด้านตำรวจให้ไปตรวจร่างกายแล้วเอาใบแพทย์มาแจ้งดำเนินคดี แต่ยังไม่ทันไปพบแพทย์ นายธนาธัญ ก็มาง้อจนลูกสาวสงสารใจอ่อนไม่ไปตรวจร่างกายแล้วกลับไปอยู่ด้วยกันอีก จนมาช่วงกลางเดือนตุลาคม เริ่มไม่ได้พบหน้าลูกสาว ลูกสาวไม่ค่อยกลับมาห้อง จึงไปสอบถามลูกสาวคนเล็กก็ได้ความว่าพี่ยี่คงไปอยู่กับเพื่อน จึงไม่ได้ออกตามหาหรือเอะใจอะไร จนกระทั่งมาทราบข่าวจากเพื่อนที่แจ้งว่าได้กลิ่นเน่าในครั้งนี้ ทั้งนี้ ตนอยากจะฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดนายธนาธัญ ฆาตกรให้ถึงที่สุด อย่าให้ได้ออกมาก่อเหตุซ้ำกับใครได้อีก
ด้านพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และจะนำตัวส่งศาลมีนบุรี เพื่อนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อไป

