วันนี้ (10 ธันวาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการด่วนกำชับ ตำรวจภูธรภาค 2, ตำรวจภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจังหวัด 7 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย ภ.จว.อุบลราชธานี, ภ.จว.ศรีสะเกษ, ภ.จว.สุรินทร์, ภ.จว.บุรีรัมย์, ภ.จว.สระแก้ว, ภ.จว.จันทบุรี และ ภ.จว.ตราด เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดป้องกันเหตุ และเพิ่มความถี่ในการการตรวจตรา ลาดตระเวนพื้นที่ โดยเฉพาะจุดสำคัญ จุดเสี่ยงต่าง ๆ และให้ตรวจตราเฝ้าระวังและปฏิบัติการต่อต้านการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ในพื้นที่ ตามยุทธวิธีอย่างเด็ดขาด และให้สืบสวนหาข่าวเฝ้าระวังบุคคลต้องสงสัย โดยให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคง
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.กำชับเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติการเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกมิติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน โดย ผบ.ตร.ให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้อย่างทุ่มเท เสียสละ ทั้งตำรวจภูธรทุกจังหวัดและทุกหน่วยในพื้นที่ที่ร่วมพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ดูแลประชาชนทั้งการอพยพลำเลียง ดูแลความปลอดภัย ดูแลการจราจร รวมถึงตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่เป็นกองกำลังตำรวจแนวหน้าร่วมรบกับกองทัพ โดยย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์แผ่นดินไทยอย่างสุดความสามารถ ส่วนกรณีที่มี ตชด.ได้รับบาดเจ็บ 8 นาย จากเหตุปะทะที่เขาพระวิหารวันนี้ ผบ.ตร.ย้ำให้ดูแลรักษาให้สิทธิสวัสดิการอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา มีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาครั้งนี้ 18 นาย ซึ่ง ผบ.ตร.ยกย่องในความกล้าหาญ สั่งการดูแลทุกนายอย่างดีที่สุดเช่นกัน


