กรมประมง..เร่งเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการภาคประมงไทยรับมือกฎหมาย MMPA ก่อนสหรัฐฯ บังคับใช้ 1 ม.ค. 2569

72

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 กรมประมง..จัดประชุมเร่งทำความเข้าใจผู้ประกอบการภาคประมงไทย ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ก่อนกฎหมาย MMPA จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2569 นี้ ณ ห้องประชุมพะยูน กรมประมง และผ่านระบบการประชุมออนไลน์ Zoom Cloud Meetings โดยมีผู้แทนจากสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย และผู้ประกอบการนำเข้า – ส่งออกสินค้าประมง และเจ้าหน้าที่กรมประมงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมกว่า 500 ราย

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ด้วยวันที่ 1 มกราคม 2569 ที่จะถึงนี้ รัฐบาลของสหรัฐอเมริกา โดยองค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA) ได้กำหนดบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำ เพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (Marine Mammal Protection Act : MMPA) และได้ประกาศผลการพิจารณาความเทียบเคียงตามกฎหมาย MMPA อย่างเป็นทางการใน Federal Register และเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา สำหรับรายการสินค้าประมงทั้งหมด 2,500 รายการ จากประเทศคู่ค้า 135 ประเทศทั่วโลก โดยผลการพิจารณาปรากฏว่าประเทศไทยเป็น 1 ใน 89 ประเทศที่ผ่านการประเมินและรายการสัตว์น้ำที่ได้จากเครื่องมือประมงของประเทศไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด อีกทั้งการประมงของประเทศไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อการประมงต่างประเทศ (List of Foreign Fisheries : LOFF) ผ่านเกณฑ์การเทียบเคียงมาตรการทางกฎหมายของไทยกับ MMPA ของทางสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว สามารถส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาได้ทุกรายการ

กรมประมงจึงได้จัดการประชุมชี้แจงมาตรการควบคุมการส่งออกสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำไปยังสหรัฐอเมริกาภายใต้กฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม (MMPA) ขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่กรมประมง ในการทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดใหม่ และแนวทางปฏิบัติที่ต้องดำเนินการร่วมกันอย่างถูกต้องและครบถ้วน เพื่อให้การส่งออกสินค้าสัตว์น้ำของไทยไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างราบรื่นต่อเนื่อง ไม่ถูกจำกัด หรือหยุดชะงัก สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ตั้งแต่การนำเข้า การผลิต และการส่งออก ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามระเบียบของกรมประมงที่ต้องจัดทำหลักฐานรับรองแหล่งที่มาของสัตว์น้ำที่นำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมประมงในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

  1. สัตว์น้ำที่มีแหล่งที่มาจากการนำเข้าจะต้องมีการอ้างอิงหมายเลขหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำนำเข้า(Imported Aquatic Animal Movement Document : IMD) ลงในหนังสือรับรองในการแจ้งแหล่งที่มาของสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในการส่งออก (Self Certificate)
  2. สัตว์น้ำที่มีแหล่งที่มาจากการทำประมงโดยเรือประมงไทยจะต้องมีการอ้างอิงหมายเลขหนังสือกำกับการซื้อขายสินค้าสัตว์น้ำ (Marine Catch Purchasing Document : MCPD) ลงในหนังสือรับรองในการแจ้งแหล่งที่มาของสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในการส่งออก (Self Certificate) โดยสามารถขอหนังสือรับรองฯ จากกรมประมง ผ่านระบบการตรวจสอบย้อนกลับสำหรับสัตว์น้ำที่จับโดยเรือประมงไทย (Thai Flagged Catch Certification System : TFCC)
  3. สัตว์น้ำที่มีแหล่งที่มาจากการเพาะเลี้ยงในประเทศไทยจะต้องมีการอ้างอิงหมายเลขหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์น้ำ (Aquatic Animal Movement Document : MD) หนังสือกำกับการจำหน่ายลูกพันธุ์สัตว์น้ำ (Aquatic Animal Fry Movement Document : FMD) (ในกรณีของสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กุ้งทะเล) และหนังสือกำกับการซื้อสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้จากการเพาะเลี้ยง (Aquacultural Product Purchasing Document : APPD) หนังสือกำกับการซื้อขายลูกพันธุ์สัตว์น้ำที่ได้จากการเพาะเลี้ยง (Aquacultural Fry Purchasing Document : AFPD) ในกรณีของกุ้งทะเล ลงในหนังสือรับรองในการแจ้งแหล่งที่มาของสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในการส่งออก (Self Certificate)

ทั้งนี้ ในข้อที่ 1 และ 3 สามารถขอหนังสือรับรองฯ ได้ผ่านระบบ Processing Statement and PSM Link System (PPS)ที่สำคัญ ประเทศไทยในฐานะประเทศตัวกลางที่นำเข้าสัตว์น้ำเพื่อแปรรูปและส่งออกต่อไปยังสหรัฐอเมริกา (Intermediary Nation) จำเป็นต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่สหรัฐอเมริกา ว่าสินค้าประมงของไทยไม่ได้มาจากแหล่งทำการประมงที่ไม่ผ่านการประเมินตามกฎหมาย MMPA ซึ่งจะช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านการผลิตและการส่งออกสินค้าประมงของไทย และเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับมาตรฐานตลอดห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าประมงไทยในเวทีโลกต่อไป

“จากสถิติการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปสหรัฐฯ ในปี 2566 มีปริมาณ 182,550 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 29,699 ล้านบาท และในปี 2567 นั้น มีปริมาณถึง 235,645 ตัน สร้างมูลค่ากว่า 38,402 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินค้าประมงไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด และขยายโอกาสต่อไปในอนาคต การปฏิบัติตามกฎหมาย MMPA จึงมีความสำคัญอย่างมาก และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยกรมประมงพร้อมสนับสนุนข้อมูลความรู้ และให้คำแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการภาคประมงไทยสามารถปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงตามข้อบังคับของกฎหมาย เพื่อให้การส่งออกสัตว์น้ำของไทยไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามกฎหมายสากล เสริมภาพลักษณ์สินค้าประมงไทยในตลาดโลก”

สำหรับผู้ประกอบการภาคประมงสามารถศึกษารายละเอียดและขั้นตอนในการจัดทำเอกสารเพิ่มเติมได้ที่ คู่มือการขอหนังสือรับรองในการแจ้งแหล่งที่มาของสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำในการส่งออก (Self Certificate) ผ่านระบบ PPS ดาวน์โหลดเอกสารได้ที่

https://www4.fisheries.go.th/local/file_document/20240405130220_1_file.pdf

หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คเพจ : กองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิต

https://www.facebook.com/share/17nBF4QwTD

หรือโทร 0-2579-3614-15…อธิบดีกรมประมง กล่าว