เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ธ.ค.) นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของ นางสาวข้าวโพด สมิทธินันท์ หรือ “ไฮโซข้าวโพด” หนึ่งในผู้เสียหายในคดีฮ้อโกงของ “นานา ไรบีนา“ เปิดเผยภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นานกว่า 5 ชั่วโมงก่อนจะลงมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า วันนี้ตนมาให้ข้อมูลและยื่นหลักฐานเพิ่มเติมตามที่พนักงานสอบสวนต้องการ พร้อมเปิดเผยว่ามีผู้เสียหาย 1 ใน 17 คน ที่แจ้งความดำเนินคดีกับนานาเข้าให้ปากคำในวันนี้ด้วย โดยใช้เวลานานพอสมควร อย่างไรก็ตาม ตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเนื่องจากเป็นความลับทางราชการ แล้วเกรงว่าจะกระทบกับสำนวนของพนักงานสอบสวน
สำหรับเอกสารส่วนใหญ่ที่นำมายื่นในวันนี้เป็นเอกสารโอนเงินของลูกความตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการโอนเงิน ซึ่งเฉพาะส่วนของข้าวโพดมีการโอนเงินออกไปทั้งหมด 116 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องการทราบรายละเอียดในแต่ละช่วงเพิ่มเติม พร้อมยังบอกอีกว่า นอกจากข้าวโพดแล้วตนยังเป็นทนายให้ลูกความอีก 2 คน ในกลุ่ม 17 คนด้วย / ส่วนกรณีที่ นายสายหยุด เพ็งบุญชูทนายความของนานา ต่อสู้ว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีฉ้อโกง ก็ต้องนำข้อมูลพฤติการณ์มาเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ เพราะเราไม่ใช่ผู้ตัดสินว่าถูกหรือผิด จึงต้องนำข้อมูลต่างๆมาให้พนักงานสอบสวนอย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนต้องการพยานหลักฐานหรือข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถประสานให้เข้าพบได้ หรือแม้แต่ลูกความตนมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถเข้าพบพนักงานสอบสวนได้โดยไม่ต้องรอให้พนักงานสอบสวนเชิญตัว
ขณะที่ด้าน พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ให้ข้อมูลว่า พนักงานสอบสวนนัดหมาย “ไฮโซข้าวโพด” เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้สำนวนคดีมีความแน่นหนามากขึ้น เนื่องจากยังมีบางประเด็นที่ต้องให้การเพิ่ม ส่วนจะมีการออกหมายเรียก นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทยเทเนียม ในวันนี้เลยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการสอบปากคำผู้เสียหายในครั้งนี้ หากคำให้การและพยานหลักฐานต่าง ๆ พร้อม ก็จะทำการออกหมายเรียกในทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่กำลังสัมภาษณ์ทนายสวัสดิ์ ไปได้ไม่กี่คำถามก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เข้าเวรอำนวยการเดินมาแจ้งขอให้ออกไปสัมภาษณ์ด้านนอก ทนายสวัสดิ์กับนักข่าวจึงพากันเดินไปสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ไป บางช่วงหยุดยืนพัก นายตำรวจรายเดิมก็ยังตามมาไล่อีก ซึ่งจากการตรวจคลิปข่าวย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนายเดิมคนที่เคยมาไล่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. กระทรวงการต่างประเทศให้ออกไปสัมภาษณ์ด้านนอกรั้วกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาแล้ว
