หน้าแรกกระบวนการยุติธรรมบช.ปส. เปิดปฏิบัติการ "เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ" ทลาย 4 เครือข่ายใหญ่ รวบแก๊งไนจีเรีย Romance Scam ขนโคเคน, สกัดยาออกฤทธิ์ฯ ส่งออกสหรัฐฯ-เครือข่ายหมอแอร์...

บช.ปส. เปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ” ทลาย 4 เครือข่ายใหญ่ รวบแก๊งไนจีเรีย Romance Scam ขนโคเคน, สกัดยาออกฤทธิ์ฯ ส่งออกสหรัฐฯ-เครือข่ายหมอแอร์ และทลายแหล่งผลิต “พอต K” ทุนจีนสีเทา รวมยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านบาท

ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) เดินหน้าเชิงรุกในทุกมิติ ปิดล้อม ตรวจค้น สืบสวน ขยายผล ปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดทั้งในและนอกประเทศ พร้อมยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำลายโครงสร้างทางการเงินของขบวนการอย่างเด็ดขาด

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2568 เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. และผู้บังคับบัญชา เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการ “ต้องชนะยาเสพติด” ให้ได้อย่างเด็ดขาดภายใต้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง

กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้เปิดเผยผลการปฏิบัติการเชิงรุกในการสกัดกั้นและทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ โดยมีรายละเอียดดังจากสถานการณ์ยาเสพติดที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงผ่านช่องทางดิจิทัล แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ และการขนส่งพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. จึงได้สั่งการให้เร่งรัดปฏิบัติการเชิงรุกในการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือน พ.ย.2568 บช.ปส. โดย กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 และ 2 (บก.ปส.1 และ บก.ปส.2) ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส., DEA และหน่วยงานต่างประเทศ ได้เปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ” โดยสามารถจับกุมจำนวน 4 คดี ผู้ต้องหาชาวต่างชาติและไทย รวม 40 ราย ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ดังนี้

คดีที่ 1: บช.ปส. รุดช่วยหญิงพิการชาวยุโรป ก่อนตกเป็นเหยื่อโรแมนซ์สแกมเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.1 จับกุมนายเอ็นซูเบ (นามสมมติ) สัญชาติไนจีเรีย ซึ่งเป็นสมาชิกเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ (Romance Scam) โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์สร้างตัวตนปลอมเป็นชาวเกาหลี หลอกลวงหญิงชาว ยุโรปที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (เป็นใบ้-หูหนวก) ให้หลงรัก โดยใช้อุบายชักชวนมาท่องเที่ยวประเทศไทยและจะพาไปจดทะเบียนสมรสที่ประเทศเบลเยียม จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้แอบซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) น้ำหนักรวมประมาณ 5.7 กิโลกรัม ไว้ในกระเป๋าเดินทางของหญิงผู้เสียหาย เพื่อหวังใช้เป็นเครื่องมือในการขนลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศเบลเยียม เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมและประสานงานสถานทูตฮังการีเพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อและส่งตัวกลับประเทศอย่างปลอดภัย พร้อมดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมาย

คดีที่ 2: ทลายเครือข่ายวัตถุออกฤทธิ์ข้ามชาติบก.ปส.1 ร่วมกับ สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐฯ (DEA) ตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ที่เตรียมส่งออกไปยังปลายทางประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายได้รวมทั้งสิ้น 11 ราย พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 รวมจำนวน 185,328 เม็ด และได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด มูลค่ารวมประมาณ 500 ล้านบาท

คดีที่ 3: ปราบเครือข่ายลักลอบจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ “หมอแอร์”บก.ปส.1 ร่วมกับ อย. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบการจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ที่หลุดออกจากระบบควบคุม นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย รวม 25 ราย ครอบคลุมตั้งแต่แพทย์ นักกายภาพบำบัด ครู ผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย พร้อมยึดวัตถุออกฤทธิ์รวม 219,780 เม็ด และทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 525 ล้านบาท

คดีที่ 4: ทลายขบวนการ“พอตเคจีน” ลักลอบผลิต–ขายยาครบวงจร ล่อซื้อกลางพัทยา ขยายผลรวบยกแก๊ง 4 ราย ของกลางนับหมื่น!บก.ปส.2 บช.ปส. เปิดปฏิบัติการเด็ดหัวขบวนการชาวจีนลอบผลิต–จำหน่ายยาเสพติดรูปแบบใหม่ “พอตเค” และสารเสพติดหลายชนิด แพร่ระบาดหนักในแหล่งท่องเที่ยวและกรุงเทพฯ จับกุมต่อเนื่อง 3 จุดใหญ่ พัทยา–ห้วยขวาง–นนทบุรี ยึดของกลางมหาศาล ทั้งพอตเคกว่า 2 พันหัว อุปกรณ์ผลิตยาครบชุด เงินสดหลายสกุล เชื่อมโยงเป็นขบวนการเดียวกัน มีการแบ่งงานเป็นระบบ ใช้คอนโดหรูซุกซ่อนและส่งของผ่านพัสดุอาหารสัตว์หวังเลี่ยงการจับกุม

จุดที่ 1: ล่อซื้อกลางพัทยา รวบ “Mr. Liu” รับเงินคาหนังคาเขาเจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสจากสายลับว่า สามารถสั่งซื้อ “หัวพอตเค” จากชายชาวจีนชื่อเล่น “เหล่าหวาง” ผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม โดยนัดส่งของจำนวน 100 หัว ในราคา 60,000 บาท ที่คอนโด The Trust South Pattaya สินค้าแอบซุกในถุงอาหารแมว สร้างความแนบเนียนอย่างแยบยล แต่เมื่อคนร้ายเดินทางมารับเงิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม Mr. Liu Yisheng สัญชาติจีน พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทพอตเคครบ 100 หัว

จุดที่ 2: ขยายผลลุยห้วยขวาง–ดินแดง พบอุปกรณ์ผลิตและเครือข่ายจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหา พบเบาะแสเชื่อมโยงถึง Mr. Liu Huowen พักอยู่ที่คอนโดหรูในย่านห้วยขวาง เจ้าหน้าที่สะกดรอยตามพฤติกรรมจนมั่นใจ และแสดงตัวจับกุมได้สำเร็จ ยึดของกลางพอตเคจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์ผลิตเบื้องต้น และข้อมูลการรับพัสดุต้องสงสัยอีกหลายรายการ

จุดที่ 3: บุกคอนโดดัง นนทบุรี พบแหล่งผลิต–โกดังยาจากข้อมูลการรับพัสดุยาเสพติดในชื่อปลายทางที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบคอนโด ศุภาลัย ปาร์ค แคราย–งามวงศ์วาน ห้องพัก 2 ห้อง พบเป็นแหล่งเก็บ–ผลิตพอตเคอย่างชัดเจน ภายในห้องพบของกลางจำนวนมาก พร้อมจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย คือ Li Huanghua และ Mo Liangjuan ทั้งหมดสัญชาติจีน รวมผู้ต้องหาสัญชาติจีน 4 ราย ส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายและตรวจยึดของกลาง ได้แก่ หัวพอตเครวม 2,386 หัว, วัตถุออกฤทธิ์ “อิโทมิเดต” น้ำหนักรวม 716 กรัม, ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 12.2 กรัม, พอตบุหรี่ไฟฟ้าเปล่า 5,390 หัว และ เงินสดหลายสกุล รวมมูลค่านับล้านบาท

จากการสืบสวนขยายผล พบว่าเครือข่ายนี้มีการวางโครงสร้างการกระทำผิดอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ขั้นตอน ผลิต–เก็บ–ส่งสินค้า ใช้คอนโดหรูหลายแห่งเป็นฐานปฏิบัติการ ซุกซ่อนยาในพัสดุอาหารสัตว์ และอาศัยบริการขนส่งด่วนเป็นช่องทางหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดยเป้าหมายหลักคือการกระจายพอตเคไปยัง แหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา และเขตชุมชนในกรุงเทพฯสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น ระหว่างวันที่ 1 ต.ค – 30 พ.ย.2568 เพื่อขับเคลื่อนมาตรการปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ ส่งผลให้สามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติดได้จำนวน 48,401 คดี ผู้ต้องหา 48,260 คน พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางจำนวนมาก ได้แก่ ยาบ้า 215.8 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 97.72 กก., ไอซ์ 6,188.59 กก., โคเคน 9.21 กก. คีตามีน 1,380 กิโลกรัม, ยาอี 196,152 เม็ด, และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดรวมมูลค่ากว่า 989.98 ล้านบาท พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละและความมุ่งมั่น ในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลลัพธ์จากการบูรณาการระหว่างตำรวจไทย หน่วยงานด้านยาเสพติดระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการขจัดภัยยาเสพติดแบบ “ขุดรากถอนโคน” เพื่อร่วมกันปกป้องสังคมไทยจากภัยร้ายของยาเสพติดอย่างยั่งยืน ถือเป็นภาพสะท้อนถึงความตั้งใจจริง ในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบและยั่งยืน สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกในทุกมิติ ทั้งการสืบสวน ปิดล้อม ตรวจค้น และขยายผลจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเร่งยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำลายโครงสร้างทางการเงินของขบวนการอย่างถึงที่สุด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมกันปกป้องสังคมไทยจากภัยร้ายของยาเสพติดอย่างยั่งยืน และขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน: โดยเฉพาะกรณี Romance Scam ขอให้ระมัดระวังการรับฝากสิ่งของจากบุคคลแปลกหน้าหรือชาวต่างชาติที่เพิ่งรู้จัก และกรณีบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเสพติด (Pod K) ซึ่งเป็นภัยเงียบที่แพร่ระบาดในสถานบันเทิง หากพบเบาะแสยาเสพติด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1599 หรือ 191 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้บ้าน

RELATED ARTICLES
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_img