“มหาอุทกภัยปักษ์ใต้ “รัฐบาลต้องเยียวยาทุกมิติ”

455

มหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยชาวบ้านต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัส โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤตที่สุด ได้สะท้อนให้เห็นศักยภาพความเป็นผู้นำของนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรี ในยามที่ต้องเจอกับภาวะวิกฤตแล้วว่าด้อยศักยภาพแค่ไหน



ทำให้มีการนำไปเปรียบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันโดนสึนามิถล่ม ในทำนองว่า”ผู้ประสบภัยสึนามิโชคดีที่เจอแม้ว แต่ผู้ประสบภัยมหาอุทกภัยหาดใหญ่โชคร้ายที่เจอหนู”

แต่เมื่อเลยมาถึงวันที่เลยแล้ว สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย คงไม่ต้องวิจารณ์อะไรมากมายเพราะช่วงวิกฤตหนักสุดได้ผ่านมาแล้ว

หากรัฐบาลอยากจะกู้วิกฤตศรัทธาคืนจริงๆทำได้ไม่ยากเลยนั่นคือการเยียวยาผู้ประสบภัยในทุกมิติ ที่นายอนุทิน พลั้งปากว่าจะอยู่หาดใหญ่จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย ผ่านไปถึงครึ่งชั่วโมงกลับคำจะกลับกรุงเทพฯ เพื่อประชุมวางแผนเยียวยา เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแม้จะต้องกลืนน้ำลายตัวเองก็ตาม

โดยในการเยียวยารัฐบาลต้องวางขั้นตอนให้ชัดเจน ต้องเยียวยาทุกมิติและจัดทีมงานเข้าทำทันทีที่น้ำลด แต่ไม่ต้องรอจนเข้าสู่ภาวะปกติ เริ่มจัดการในเบื้องต้นที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตก่อน

ประการแรกเชื่อว่าชาวบ้านต้องการคือให้การประปาและการไฟฟ้าเปิดบริการทันที ถ้าเจ้าหน้าที่ทั้งสองหน่วยมีไม่เพียงพอเพราะต่างเป็นผู้ประสบภัย สั่งให้เจ้าหน้าที่จากจังหวัดที่ไม่ประสบภัยเดินทางเข้าพื้นที่มาเสริมทีม



จากนั้นระดมเจ้าหน้าที่ทั้งทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร(อส.)จากจังหวัดต่างๆ รวมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาต่างๆ ลงพื้นที่ช่วยทำความสะอาดบ้านเรือน เก็บกวาดขยะและซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ผู้ประสบภัยได้เข้าอาศัยแบบรวดเร็วพร้อมมอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภคอื่นๆยังชีพไปก่อนสักระยะหนึ่ง

ประการที่สองบริหารจัดการซ่อมบำรุง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถชนิดต่างๆที่จมน้ำ ด้วยการประสานกับหน่วยงานรัฐที่มีหน่วยซ่อมบำรุงที่มีช่างประจำ รวมถึงสั่งการให้กรมอาชีวะระดมนักศึกษาช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า และช่างอื่นๆที่เกี่ยวข้องตั้งจุดบริการ พร้อมประสานศูนย์รถยนต์ ศูนย์บริการซ่อมบำรุง และร้านซ่อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้บริการในราคาลดพิเศษ รัฐช่วยจ่ายคนละครึ่งกับเจ้าของรถ

จากสภาพน้ำท่วม รถทุกประเภทจมน้ำจำนวนมาก และรถคือปัจจัยสำคัญทั้งเดินทางไปทำงาน รับจ้างทั่วไป รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพต่างๆ อาทิ ทำถนน ขายกับข้าว และการเกษตร เป็น

ประการที่สามจ่ายเงินเยียวยาในเบื้องต้นทุกหลังคาเรือน เพื่อได้ใช้จ่ายซื้อเสื้อผ้า เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นก่อน หลังจากนั้นวางแผนเยียวยาแบบขั้นบันไดจากเสียหายน้อยไปสู่เสียหายมาก



ประการที่สี่ คาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตอาจจะหลายร้อยศพหรืออาจจะถึงหลักพันศพ รัฐบาลต้องเตรียมเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกศพ รวมทั้งออกค่าใช้จ่ายในการจัดพิธีศพด้วยเพราะเชื่อว่าผู้ประสบภัยจำนวนมากอาจจะไม่มีเงินเพียงพอที่จะจัดพิธีศพ เนื่องจากต้องใช้เงินในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

ทั้งสี่ประการนี้ต้องเร่งทำทันที เพราะล้วนเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิต หลังจากที่ประสบภัยมาอย่างแสนสาหัสมา เสมือนเป็นการเยียวยาทางใจไปพร้อมกัน

เมื่อทั้งสี่ประการได้จัดการอย่างลงตัวแล้ว รัฐบาลต้องวางแผนเยียวยาด้านรายได้ที่ขาดหายไปในช่วงประสบภัย วางแนวทางสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่สูญเสียอาชีพเพราะมหาอุทกภัย วางแนวทางจ่ายเงินเยียวยาให้ภาคเกษตรกรรม ทั้งนาข้าว สวนยางพารา สวนผลไม้ และผู้ประกอบการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่ รัฐบาลต้องวางแนวทางช่วยเหลือเยียวยาเช่นกัน เพราะหลายโรงงานต้องหยุดการผลิตเพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ เถ้ารัฐไม่เข้าไปดูแลแบบให้สิทธิ์พิเศษจริงๆ อาจจะส่งผลให้มีตกงานเพิ่มได้

ขณะเดียวกันสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด คือการเยียวยาทางจิตใจ ผู้ประสบภัยจำนวนมากอยู่ในอาการเครียดหนัก เพราะสิ้นเนื้อประดาตัว บางคนบางกลุ่มอดอาหารและน้ำเป็นเวลาหลายวัน บางคนบางกลุ่มนั่งตากแดดตากฝนบนหลังคาบ้านหลายวันเพื่อเฝ้ารอคนมาช่วย บางคนต้องนั่งเฝ้าญาติที่เสียชีวิตแบบไร้ความหวังว่าจะมีคนมาช่วยเวลาไหน

โดยรัฐบาลต้องเร่งจัดชุดเจ้าหน้าที่ด้านจิตเวชลงพื้นที่พร้อมๆกับทีมหมอ เพื่อช่วยรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ หากเจ้าหน้าที่และหมอในพื้นที่ไม่เพียงพอหรือไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่เพราะต่างเป็นผู้ประสบภัยเช่นกัน ระดมหมอและเจ้าหน้าจากจังหวัดอื่นๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่ และเพื่อให้บริการได้รวดเร็วและกว้างขวางประสานขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนให้เข้าช่วย เชื่อว่าพวกเขาพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว



จากข้อเสนอดังกล่าว”จอมมารน้อย”เชื่อว่าถ้ารัฐบาลสามารถดำเนินการได้แบบเป็นรูปธรรม รวดเร็ว ทำให้ประชาชนสัมผัสได้ถึงความช่วยเหลือภายในหนึ่งสัปดาห์ ความรู้สึกที่ยังฝังอยู่ในจิตใจช่วงประสบภัยว่ารัฐบาลทอดทิ้ง อาจจะทำให้ความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้งเบาบางลงได้ระดับหนึ่ง

เมื่อเวลาทอดยาวไปสักระยะหนึ่งบวกความใส่ใจของรัฐบาลที่มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาในทุกด้านๆ เชื่อว่าความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้งนั้นจะเลือนหายไปอย่างแน่นอน และจะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยกู้คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยและพรรคร่วมรัฐบาลกลับคืนมาได้ดังเดิม !!!