จากกรณีที่ ป.ป.ช. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีถือครองนาฬิกาหรูจำนวน 22 เรือน ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 5 เสียง 3 ยกคำร้องกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นนาฬิกาของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ที่ให้ พล.อ.ประวิตร ยืมใช้ จำนวน 21 เรือน ส่วนอีกเรือนแม้ยังหาไม่ได้ว่าเป็นของนายปัฐวาท แต่ทราบว่าชอบให้เพื่อนคนอื่นๆยืมเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตรงนี้จะให้กรมศุลากรกรตรวจสอบว่าเป็นของใครต่อไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นกรณีนี้ ระบุว่า คนอย่างผมมีสิทธิที่จะพูดเรื่องนี้ เพราะ ป.ป.ช. ส่งผมติดคุกมาแล้ว
ไม่ว่าเงินน้อย เงินมาก หากว่าลืมรายงาน กฎหมายสันนิษฐานว่า “มีเจตนา จงใจปกปิดทรัพย์สิน” อย่างตัวผม ลืมรายงานหุ้นเป็นเงินแค่ 150,000 บาท
สมัยก่อนให้เงินนักร้องยังมากกว่านี้ แต่จะพูดแก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น เพราะท่านบอกว่าเป็นกฎหมาย “ปิดปาก” ต้องคอตกติดคุก
วันนี้ ป.ป.ช. สอบเรื่องนาฬิกาหรูแล้ว สรุปว่า
– นาฬิกาเป็นของเพื่อนจริงๆ (แม้ว่าเพื่อนตายไปแล้ว)
– นาฬิกาไม่ใช่ของบิ๊กป้อมจริงๆ (เพราะเก็บอยู่ที่บ้านเพื่อน)
– นาฬิกาให้เพื่อนคนอื่นยืมด้วยจริงๆ (ไม่ใช่แค่เพื่อนชื่อป้อม)
– นาฬิกาเป็นของเคลื่อนย้ายง่ายจริงๆ (ชักงง อะไรที่มันเคลื่อนย้ายยากวะ?)
– นาฬิกาไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนจริงๆ (แม่งเรือนละเป็นสิบๆล้าน)
อ่านแล้วอย่าไปซีเรียส ป.ป.ช. สอบมาตั้งนานได้แค่นี้จริงๆ
มันเป็นกฎหมายพิเศษ คนธรรมดาอย่างพวกเรา ไม่เข้าใจจริงๆ
นี่ถ้ารู้ว่า “ยืม” แล้วรอดแบบนี้ ผมไม่สารภาพให้ติดคุกจริงๆ
แหม… คิดแล้วมันช่างน่าเจ็บใจเสียจริงๆ