เพิ่งตื่น!! รัฐบาลสั่งตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการแก้น้ำท่วม” ให้ “ภราดร” เป็น ผอ. หลังถูกวิจารณ์หนัก

231

ทำเนียบรัฐบาล, วันที่ 25 พ.ย. เวลา 17.30 น. – จากสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัดภาคใต้ต่อเนื่องหลายวัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพ และอีกหลายรายยังติดค้างอยู่ในบ้านโดยปราศจากน้ำและอาหาร นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าว จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย โดยมีนายภราดร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขานุการศูนย์ฯ รวมทั้งมีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และพลโท วันชนะ สวัสดี เป็นโฆษกประจำศูนย์ฯ และคณะทำงานจากทุกภาคส่วนเข้ามาบูรณาการร่วมกัน

โดยศูนย์ฯ นี้ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวม – คัดกรองข้อมูลทั้งหมดจากประชาชนผู้ประสบภัย โดยกำหนดหมายเลขประสานงานคือ 1784 และ 1111 รวมถึงช่องทางเพจข่าวสารต่าง ๆ ของภาครัฐ ก่อนแยกเป็นระดับเร่งด่วน ได้แก่ เคสสีแดง ผู้มีความเสี่ยงสูงและต้องช่วยเหลือทันที เคสสีเหลือง ผู้ที่ยังอาศัยในบ้านแต่ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม หรือสิ่งของจำเป็น เพื่อส่งต่อข้อมูลไปยังหน่วยปฏิบัติในพื้นที่อย่างแม่นยำ ลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความรวดเร็วในการเข้าช่วยเหลือ

นายภราดร กล่าวว่า ด้านการบริหารพื้นที่ ผู้บัญชาการส่วนหน้าจะจัดแบ่งเคส และประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวบรวมและตรวจสอบความต้องการของแต่ละจุด จากนั้นจะเลือกวิธีปฏิบัติที่เหมาะสม เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเร็วที่สุด

สำหรับสถานพยาบาล นายกฯ กำชับเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรงพยาบาลหาดใหญ่ โดยให้การไฟฟ้าพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้โรงพยาบาลขาดไฟฟ้า เพื่อให้สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้มากที่สุด

การจัดตั้งศูนย์ฯ แห่งนี้มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ ลดความซ้ำซ้อน และเร่งรัดให้การช่วยเหลือสามารถส่งต่อไปถึงพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็วและตรงจุดมากยิ่งขึ้น รวมถึงบริหารจัดการการช่วยเหลือจากจิตอาสาไม่ให้ตกหล่น และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ศูนย์ฯ จะยังทำหน้าที่จัดการข้อมูลและสิ่งของในศูนย์อพยพแต่ละแห่งให้เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพต่อไป

โดยก่อนหน้านี้ทั้งนักวิชาการ และพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และกลุ่มจิตอาสา รวมทั้งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่างวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างหนักที่ไม่สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ครั้งนี้ได้ดีเท่าที่ควร เนื่องจากขาดการประสานงานระหว่างหน่วยที่เกี่ยวข้อง และขาดผู้รับผิดชอบหลัก การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความล่าช้า ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก